เพื่อไทย 24 พ.ค. –หน.เพื่อไทย จี้ก้าวไกลเคลียร์ปม “น.ต.ศิธา” กล่าวหา “รับบรีฟ” ลั่นถ้า 6 เสียงดีกว่า 141 เสียงก็ยอม บอกถ้าขอโทษอย่างมีสำนึกก็ไม่ติดใจ ยอมรับวันนั้นถ้าชกได้ ชกแล้ว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยโพสต์ขอโทษ กรณีระบุว่า นพ.ชลน่านไป “รับบรีฟ” มาจากใคร โดยยืนยันว่า ไม่ได้ถือโทษโกรธ แต่อยากให้ทุกอย่างอยู่ในร่องในรอย ในกรอบ ถ้าขอโทษก็ยินดีรับ ซึ่งในวันแถลงข่าวลงนาม MOU ก็บอก น.ต.ศิธา ว่าจะทำตัวเป็นสื่อหรือจะทำตัวเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่เป็นคนร่วมพิจารณาร่าง MOU ด้วย คำพูดนี้ถือว่าแรง ทุกคนได้ยิน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การไปเขียนต่อเติมเสริมแต่งว่ามีการดื่มสังสรรค์ชนแก้ว พูดคุย จนไปกล่าวหาว่าผมไปรับบรีฟ อันนี้เสียหายมาก ถ้าจะขอโทษ ต้องขอโทษตรงนี้ด้วย ยืนยันว่าไม่ได้โกรธ แต่เรากำลังจะทำภารกิจสำคัญที่สุด คือจัดตั้งรัฐบาล MOU ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายมองว่าต้องทำ การจับมือครั้งนี้คือการมัดกันแน่นอยู่แล้ว ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยพูดตลอดว่าเรายอมรับมติมหาชน การจะไม่จับมือกัน มันเป็นไปไม่ได้ ยินดีหากเขาขอโทษ เราก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคือง เพราะต้องการที่จะทำให้เป้าหมายของเราประสบความสำเร็จ
“แต่ถ้ายังมีเงื่อนงำหรือเงื่อนไขอยู่ ผมก็ประกาศว่าผมไม่สบายใจที่จะร่วมงานกับคุณศิธา ผมพูดตรง ๆ ว่าผมไม่สบายใจกับเรื่องนี้ ยกเว้นแกนหลักเขาบอก พรรคของคุณศิธา 6 เสียงมีความสำคัญ ผมก็ต้องมานั่งดูตัวเองว่าผมสำคัญหรือเปล่า ที่พูดเนี่ยหมายความว่าเป็นเรื่องของพรรคแกนนำที่ต้องไปทำความเข้าใจกับพรรคร่วมอื่น ๆ โดยเฉพาะกับพรรคไทยสร้างไทยว่าพฤติกรรมแบบนี้ จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกันหรือไม่ จะปรับจะแก้จะจูนหากันด้วยดีได้หรือไม่ ถ้าเขาพูดจบ ผมก็จบ แต่ถ้ายังปล่อยปละละเลยแบบนี้ ผมก็ไม่สบายใจ”
ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แปลกใจมากที่ทำไม น.ต.ศิธา ไม่พูดเรื่องนี้ในที่ประชุม MOU 8 พรรค ตั้งแต่ที่ประชุมกันให้ตกผลึกเสียก่อน แต่กลับมาเลือกพูดตอนที่ทุกพรรคแถลงข่าว ทั้งที่นายศิธาก็เป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากลงจากเวทีแถลง นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า ไม่สบายใจ ถ้าพรรคแกนนำไม่จัดการเรื่องนี้ และว่า “คุณต้องไปจัดการพรรคร่วมของคุณให้อยู่ในร่องในรอย ถ้าเห็นเขาสำคัญ แล้วเห็นผมไม่สำคัญ ก็คงต้องย้อนถามกัน นี่คือสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อสาร”
เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงจะต้องเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเป้าหมายหลักของเราคือการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ควรมาเป็นประเด็น ถ้าเขาสำนึกได้ เขาขอโทษก็จบ และมันเป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่ต้องมาเคลียร์เรื่องนี้
“ถ้ายังปล่อยให้เรื่องราวเป็นประเด็นแบบนี้ MOU ที่เราเขียนว่าทุกพรรคต้องมีความจริงใจต่อกัน ต้องให้เกียรติกัน เขียนไว้แล้วเพิ่งลงนาม แต่เพียงชั่วข้ามคืน มันก็ไม่เกิดขึ้นแล้ว มันยากหรือไม่ล่ะกับการทำงาน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
เมื่อถามว่า ก้าวไกลต้องพูดคุยเรื่องนี้ให้จบเมื่อใด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ได้กำหนดเวลา ตนเป็นผู้ใหญ่พอ ไม่ได้โกรธเคืองอะไร และเมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยก็ขอโทษ ก็จบแล้ว ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แต่ปรากฎว่า น.ต.ศิธา ไปโพสต์ขยายความว่า ตนถูกบรีฟ ถูกกดดัน นั่งกินเหล้าด้วยกัน นั่งสังสรรค์กัน นี่คือสิ่งที่ตนไม่พอใจ แต่ถ้าวันนี้เขาขอโทษมา ก็ไม่ติดใจ
“ก็สำนึกบ้างว่าเราทำอะไรไป บนพื้นฐานอะไร คือมันไม่ได้เกิดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เราก็เลยอ่านเจตนาเขาออกว่า เขาต้องการอะไร แต่การแสดงออกแบบนั้น ทำตัวว่าเป็นผู้แทนของประชาชนมาบอกว่าต้องการให้กำจัดเผด็จการด้วยการผูกมัดกัน มัดกันเป็นฝ่ายค้าน ผมก็บอกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระนะ เสียงข้างมากขนาดนี้ จะไปมัดกันเป็นฝ่ายค้านทำไม ทำไมไม่มัดกันเป็นรัฐบาลล่ะ คือคำถามมันก็ไม่ใช่แล้ว สถานะมันก็ไม่ใช่ ยอมรับจริง ๆ วันนั้นผมมีอารมณ์ แต่พยายามควบคุมอารมณ์ ลงมาก็เพียงแต่ชี้หน้าเขา คุณทำตัวให้ถูก คุณจะเป็นสื่อหรือเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เอาให้แน่ ผมตำหนิเขาเลยนะ และไปกล่าวหาว่าโดนกดดันโดนบรีฟ ผมยิ่งโกรธใหญ่เลย มันหมายถึงว่าดูหมิ่น ด้อยค่า ทั้งตัวผมและพรรคผมด้วย เจตนามันบ่มว่าเขาทำอะไร เพื่ออะไร แต่ถ้าเขาขอโทษ ผมจบนะ ไม่มีปัญหาอะไร เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เข็มมุ่งเราคือจัดตั้งรัฐบาล” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่า น.ต.ศิธาต้องขอโทษในรูปแบบใด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แบบใดก็ได้ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาสำนึก
ส่วนกรณีดังกล่าวจะเป็นปมร้อนให้เพื่อไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็ฝากพรรคแกนนำ อย่าให้เรื่องอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มาบั่นทอนการทำงานร่วมกันของเรา แต่ถ้าเห็น 6 เสียงมากกว่า 141 เสียง ตนก็ยอม ส่วนแนวทางก็แค่อยากให้พูดคุยกันกับ น.ต.ศิธาว่า ขอเถอะ กำลังจับมือจัดตั้งรัฐบาล อะไรที่ช่วยกันได้ ก็ควรช่วยกันทำ จะไปสร้างฉาก สร้างซีนอะไร ก็ไปทำทีหลัง ให้เรื่องนี้จบก่อน พูดแค่นี้มันน่าจะจบ
เมื่อถามว่าถึงขั้นต้องลดบทบาท น.ต.ศิธา หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นสิทธิของพรรคแกนนำ แต่ตนก็บอกชัดเจนว่า พูดตรงนี้ให้จบนะ อย่าไปขยายความข้างนอก จะได้มีข้อตกลงชัดเจนว่าเราพูดกันแล้ว
ส่วนจะไม่ให้ น.ต.ศิธา ไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรคแกนนำ เพราะตนไม่มีอำนาจพอที่จะไปชี้เอานั่นไม่เอานั่น เพียงแต่ขอให้เกียรติกันเท่านั้นก็พอ ตนไม่ติดใจจะเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นอะไรก็เรื่องของเขา แต่ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ทำงานร่วมกันยาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะเดินออกจากห้องสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวถามว่า “ทำไมวันนี้เดือดจัง” นพ.ชลน่าน สวนกลับมาทันทีว่า “ถ้าผมชกได้ ผมชกแล้ว”.-สำนักข่าวไทย