fbpx

สธ.ดันการเพิ่มประชากรเป็นวาระแห่งชาติ หลังเด็กเกิดใหม่ต่ำสุดใน 70 ปี

เชียงใหม่ 12 ก.พ. -รมว.สาธารณสุข นำคณะผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ ดูการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนประชากรไม่ให้ต่ำกว่า 5 แสนคนต่อปี หลังพบจำนวนการเกิดต่ำสุดในรอบ 70 ปี และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดประกาศเป็นวาระแห่งชาติได้ มี.ค.นี้


ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้เหล่าบุคลากรทางการแพทย์ มาต้อนรับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่นำคณะผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ ทั้งองค์การอนามัยโลก, ยูนิเซฟ, สำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย มาดูการดำเนินงานขับเคลื่อนการเพิ่มประชากร ด้วยการส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ ที่ทำอย่างครบวงจร ตั้งแต่ตั้งครรภ์ การคลอด การเกิด การสร้างโรงเรียนพ่อแม่ ตลอดจนดูแลเด็กหลังคลอดให้ปลอดภัย ซึ่งโรงพยาบาลนครพิงค์ถือเป็นตัวอย่างที่ดี รองรับการขับเคลื่อนสู่วาระแห่งชาติและการรับความสนับสนุนจากองค์การระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนาประชากรและทุนมนุษย์ได้ต่อไป

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ประเทศไทยประสบปัญหาเด็กเกิดน้อย ลดลงตั้งแต่ปี 2564 และในปี 2565 มีจำนวนเด็กเกิดใหม่เพียง 485,085 ราย น้อยที่สุดในรอบ 70 ปี และจำนวนการเกิดน้อยกว่าการตาย นอกจากนี้ยังพบว่าอัตราการเจริญพันธุ์รวมหรือจำนวนบุตร โดยเฉลี่ยของหญิงไทยลดลงเหลือเพียง 1.08 ต่ำกว่าระดับทดแทนและมีแนวโน้มที่จะลดลงต่อเนื่อง ซึ่งหากต่ำกว่าที่เป็นอยู่ ในอีก 60 ปีจะทำให้ประชากรไทยลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 33 ล้านคน ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจสังคมและความมั่นคงของประเทศในอนาคตโดยเฉพาะการขาดแรงงาน รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข จึงเร่งผลักดันให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ ที่จะประกาศได้เดือนมีนาคมนี้ เพื่อนำไปสู่การบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งการส่งเสริมการมีบุตร สร้างความสมดุลการทำงานและครอบครัว การแบ่งเบาค่าใช้จ่ายการเลี้ยงดูบุตร และการช่วยเหลือคนที่มีบุตรยาก รวมไปถึงการแก้ไขกฎหมายกลุ่มหลากหลายทางเพศ และคนโสดที่ไม่อยากมีคู่ ให้มีมีบุตรได้ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนประชากร ให้อัตราการเกิดยังคงที่ อยู่ที่ 1.08 หรือไม่ต่ำกว่า 5 แสนคนต่อปี


พร้อมให้กรมอนามัยขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการเกิดอย่างมีคุณภาพ ภายใต้แนวคิด “Give Birth Great World การเกิดคือการให้ที่ยิ่งใหญ่“ สนับสนุนให้โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งจัดตั้งคลินิกส่งเสริมการมีบุตร บริการให้คำปรึกษา วางแผนการตั้งครรภ์ วินิจฉัยและรักษาภาวะมีบุตรยาก และพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลให้สามารถให้บริการทำเด็กหลอดแก้วมากขึ้น.-719-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบเที่ยวแรก 270 ตัน “พิมพ์ภัทรา” ลงพื้นที่สมุทรสาคร คุมหน้างานด้วยตัวเอง ย้ำต้องปลอดภัยได้มาตรฐานตลอดเส้นทาง

“ภูมิธรรม” ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราชส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม

รมว.พาณิชย์ ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราช ส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม สั่งทีมพาณิชย์เร่งส่งออกสินค้าเกษตร ช่วยชาวสวนไทยมีรายได้ยั่งยืน

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 44 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคอีสาน สูงสุด 44 องศาฯ แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง