ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในเดือน มี.ค.

กรุงเทพฯ 23 มี.ค. – สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติแจ้งว่า บางพื้นที่ได้ทยอยปรับขึ้นราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. รวม 2 ครั้ง เหตุราคาที่เกษตรกรขายได้ยังต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง ย้ำถึงความจำเป็น เหตุการขาดทุนของเกษตรกร จะเป็นการสร้างหนี้สินภาคเกษตรกรรม ที่เป็นส่วนหนึ่งของหนี้สินภาคครัวเรือนที่เป็นปัญหาใหญ่มากขึ้นของสังคมทั้งระบบ


สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติรายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มว่า บางพื้นที่ได้ปรับราคาจำหน่ายขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 จากที่ปรับครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม โดยราคาสุกรหน้าฟาร์มตกต่ำต่อเนื่องและต่ำกว่าต้นทุนการผลิต โดยราคาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม อยู่ระหว่าง 76-88 บาทต่อกิโลกรัม ต่อมาเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ราคาต่ำสุดปรับขึ้นมาอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม และสูงสุดยังทรงตัวที่ 88 บาทต่อกิโลกรัม โดยเป็นผลจากการประชุมร่วมของผู้เลี้ยงสุกรแต่ละภูมิภาค ที่เห็นว่าราคาหน้าฟาร์มยังคงต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ยของไตรมาส 1/2566 ที่ 100.70 บาทต่อกิโลกรัม ประกอบกับทุกภูมิภาคมีผลผลิตสุกรลดลงทั้งปริมาณและน้ำหนักสุกรขุนรอการจำหน่าย จึงมีมติปรับฐานราคาหน้าฟาร์มจากการจำหน่ายจริงระหว่างสัปดาห์บวก 4 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อลดความเสียหายให้เกษตรกร

อีก 7 วันต่อมาคือ วันที่ 21 มีนาคม ได้ปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทำให้จากราคาระหว่าง 80-88 บาทต่อกิโลกรัม บางพื้นที่ได้ปรับราคาต่ำสุดเป็น 84 บาท หรือปรับขึ้น 4 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาสูงสุดยังทรงตัวที่ 88 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาตามรายภาคปัจจุบันมีดังนี้


– ภาคตะวันตก 84 บาทต่อกิโลกรัม

– ภาคตะวันออก 86 บาทต่อกิโลกรัม

– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 86-88 บาทต่อกิโลกรัม


– ภาคเหนือ 88 บาทต่อกิโลกรัม

– ภาคใต้ 86 บาทต่อกิโลกรัม

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติยังระบุว่า ปัจจุบันราคาเนื้อหมู ไก่เนื้อ และไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้จริง ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตแทบทั้งสิ้น เนื่องจากปัญหาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงเกินจริง โดยเฉพาะราคาข้าวโพดหน้าโรงงานอาหารสัตว์เมื่อเทียบกับราคาตลาดโลกและราคาที่เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดไทยขายได้ 

พร้อมกันนี้ยังระบุว่า อุตสาหกรรมสุกรทั้งระบบยังคงรอให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เรียกประชุมหารือตลอดห่วงโซ่ใน เพื่อใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 เข้าแทรกแซงเพื่อแก้ปัญหา เนื่องจากปัญหาการขาดทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร จะเป็นการสร้างหนี้สินภาคเกษตรกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของหนี้สินภาคครัวเรือนซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่มากขึ้น แล้วในที่สุดจะไปลดกำลังซื้อของประชาชนที่จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์เบรกแตก

ผู้โดยสารเผยได้กลิ่นไหม้ ก่อนบัสพุ่งชนท้ายรถพ่วง ตาย 7 เจ็บกว่า 50

รถบัสโดยสารพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วงไฟลุกท่วม เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บอีกกว่า 50 คน นายอำเภอนาดี เผยคาดรถทัวร์เบรกแตก แต่กำลังเร่งตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง ขณะที่ผู้โดยสารเผยได้กลิ่นไหม้ และรถบัสแวะจอดปั๊มครั้งเดียว ก่อนขับยาว

ทรายสก๊อต

อธิบดีกรมอุทยานฯ ลั่นทำงานร่วมกับ “ทราย สก๊อต” ต่อไม่ได้

อธิบดีกรมอุทยานฯ เผยสำนักอุทยานแห่งชาติกำลังรวบรวมข้อร้องเรียนที่มีต่อ “ทราย สก๊อต” มาให้พิจารณาเพื่อให้ปลดจากตำแหน่งที่ปรึกษา ชี้ไม่สามารถร่วมงานกันต่อไปได้ มีพฤติกรรมไม่ให้เกียรติองค์กร คอนเทนต์เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียกระทบผู้อื่น

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

กรรมการไชน่าเรลเวย์

คุม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ฝากขัง-เร่งล่านอมินีไทยที่ยังหลบหนี

DSI คุมนายชวนหลิง จาง กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ฝากขังศาลอาญาข้อหาใช้นอมินี ขณะที่ดีเอสไอเร่งล่านอมินี คาดหนีกลบดานในไทย