นครปฐม 28 ก.พ. – ปฏิบัติการค้นหาร่างเด็กชายวัย 8 เดือน ยังดำเนินการต่อเนื่องเป็นวันที่ 24 แม้ยังไร้วี่แวว แต่ทุกคนยังมีหวังไม่ละความพยายาม ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เลื่อนแถลงความคืบหน้าคดีไม่มีกำหนด
บรรยากาศที่ปากคลองท่อ ซึ่งเป็นคลองสาขาต่อจากแม่น้ำท่าจีน จุดที่มารดาเด็ก 8 เดือนให้การว่านำลูกมาทิ้ง หลังจากลูกร้องทำพลัดหลุดมือตกพื้นเสียชีวิต วันนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ปฏิบัติการงมค้นหา มีเพียงชาวบ้านและสื่อมวลชนมาสังเกตการณ์
เดิมทีช่วงประมาณตี 3 ครึ่งที่ผ่านมา เจ้าที่ฝ่ายสืบสวนจะนำซากลูกหมูตายแล้วน้ำหนักประมาณ 9 กิโล น้ำหนักเท่ากับเด็กชาย 8 เดือนมายังจุดนี้ เพื่อทดสอบดูการลอยและไหลไปตามน้ำของลูกหมู แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ยังหาลูกหมูตายแล้วไม่ได้ จึงยังไม่ได้ดำเนินการทดสอบอย่างที่ตั้งใจไว้
ทั้งนี้ วันนี้มีกระแสลมบริเวณปากคลองท่อค่อนข้างแรง หากเป็นไปตามที่มารดาเด็กอ้างคาดว่าร่างของเด็กชาย 8 เดือนจะจมและไหลย้อนกลับเข้าไปในคลองท่อ หากจะพิสูจน์โดยการโยนลูกหมู นน. 9 กิโล ลงน้ำจึงไม่ง่าย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่าวันเกิดเหตุกระแสลมเป็นอย่างไร จึงเป็นไปได้ว่าเด็ก 8 เดือน อาจลอยออกไปยังแม่น้ำท่าจีน หรือไหลย้อนเข้าไปในคลองท่อ อีกทั้งเดิมทีพื้นที่บริเวณปากแม่น้ำท่อเต็มไปด้วยป่าหญ้าและผักตบชวา แต่ตอนนี้วัชพืชทั้งหมดตักขึ้นมาจนแม่น้ำค่อนข้างโล่ง การทดสอบด้วยการทิ้งลูกหมูลงน้ำ ทีมข่าวจึงไม่มั่นใจว่าจะได้ผลหรือไม่
ด้านพ่อของนาย พ. แฟนหนุ่มของมารดาเด็กชาย 8 เดือน วันนี้ให้สัมภาษณ์ย้ำกับสำนักข่าวไทยว่า ยังไม่เชื่อคำให้การของลูกสะใภ้ ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเอาเด็กไปซุกซ่อนไว้ที่อื่น จึงขอให้ลูกสะใภ้พูดความจริง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
มีรายงานว่าคดีนี้นอกจากคำให้การของมารดาเด็ก 8 เดือนว่าเอาลูกไปทิ้งลงแม่น้ำแล้ว ตำรวจยังมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพวงจรปิดของเพื่อนบ้าน ซึ่งจับภาพขณะอุ้มเด็กออกจากบ้านเอาไว้ได้ หลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือในจุดที่เกิดเหตุ และสัญญาณโทรศัพท์ที่ส่งขึ้นจากจุดเกิดเหตุ ทั้งหมดเป็นหลักฐานสำคัญใช้ดำเนินคดี
ตำรวจยอมรับว่าร่างของเด็กชาย 8 เดือน เป็นหลักฐานสำคัญที่สุด หากหาไม่พบ และตำรวจสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการในกรอบเวลา 60 วัน จะมีผลทำให้สำนวนคดีอ่อนลงทันที แต่หากพบร่างของเด็กภายหลังสรุปสำนวนคดี ก็สามารถนำเข้าประกอบสำนวนคดีได้เช่นกัน
เมื่อสอบถามถึงคำให้การของมารดาเด็กว่าตำรวจปักใจเชื่อสนิทใจหรือไม่ว่าเธอเขย่าลูกจนหลุดมือตกพื้นแน่นิ่งไป ตำรวจระบุว่าคำให้การของมารดาเด็กไม่ได่เป็นคุณกับตัวมารดาเด็กเอง แต่กลับเป็นโทษให้ตัวเธอ จึงมองว่าไม่มีเหตุผลใดที่มารดาเด็กจะสร้างเรื่องให้ตัวเองต้องคดีขึ้นมา ส่วนจะมีบุคคลอื่นรู้เห็นเกี่ยวข้องในคดีอีกหรือไม่นั้น ช่วงที่มารดาเด็กอาศัยอยู่กับครอบครัวของแฟนหนุ่ม ไม่ค่อยราบรื่น และนี่อาจเป็นเหตุผลให้ต้องสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาหลอกทุกคน รวมทั้งแฟนหนุ่มและคนในครอบครัว ดังนั้น คนอื่นอาจไม่รู้เห็นกับเหตุการณ์นี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย
