fbpx

ส่งสุนัขตำรวจ K-9 เสริมภารกิจความปลอดภัย APEC 2022

กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – ส่งสุนัขตำรวจ K-9 หรือสุนัขค้นหาวัตถุระเบิด จาก บช.น. และ ตชด. จำนวน 8 ชุด ชุดละ 2 ตัว ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยการประชุมเอเปค


ตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร การประชุมเอเปค 2565 ให้ความสำคัญ “ความปลอดภัย” เป็นหัวใจหลักของภารกิจการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC 2022 ของประเทศไทย สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 35,000 นาย พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้สำหรับการปฏิบัติภารกิจ ทั้งการดูแลความปลอดภัยและการจราจร ดูแลสถานที่จัดการประชุม และโรงแรมที่พักของบุคคลสำคัญ ซึ่งในครั้งนี้มีผู้นำประเทศเข้าร่วมกว่า 23 ประเทศ รวมทั้งผู้นำองค์กรต่างๆ

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า “สุนัขตำรวจ” เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการสนับสนุนภารกิจระดับชาติครั้งนี้ K-9 หรือสุนัขค้นหาวัตถุระเบิด จาก บช.น. และ ตชด. จำนวน 8 ชุด ชุดละ 2 ตัว ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแลพื้นที่ตั้งแต่ลานจอดรถผู้นำ พื้นที่ทั้งด้านในและด้านนอกหอประชุม รวมถึงห้องพักของผู้นำทั้ง 20 โรงแรม


รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำสื่อมวลชลลงพื้นที่บริเวณแยกเพลินจิต เพื่อดูการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสุนัขตำรวจ ร่วมกับหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด EOD โดยมี “น้องเบลล่า” สุนัขตำรวจสายพันธุ์ลาบราดอร์ เพศเมีย วัย 3 ปี จากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 เป็นหนึ่งในสุนัขที่ร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ จากการจำลองสาธิตการปฏิบัติภารกิจร่วมกันอย่างบูรณาการ น้องเบลล่าสามารถส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ทราบเมื่อได้กลิ่นสารตั้งต้นวัตถุระเบิดที่ซุกซ่อนไว้ได้อย่างแม่นยำ เรียกเสียงปรบมือจากประชาชนที่ดูอยู่โดยรอบ

พ.ต.ต.ภูวดล พลเดช สว.กก.สุนัขตำรวจ บก.สปพ. หัวหน้าชุดปฏิบัติการให้ข้อมูลว่า “เบลล่า” ยศสุนัขตำรวจตรี มีหน้าที่ตรวจค้นวัตถุระเบิด โดยสุนัขตำรวจทุกตัวต้องผ่านการฝึกตามหลักสูตรเป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากผ่านการทดสอบจึงจะสามารถเริ่มปฏิบัติภารกิจได้ และ ส.ต.ท.เกียรติชัย สระทองด้วง ผู้ควบคุมสุนัข กล่าวว่า น้องเบลล่ามีประสบการณ์เกี่ยวกับภารกิจรักษาความปลอดภัยกว่า 2 ปี นอกจากนี้ด้วยนิสัยที่มีความน่ารัก ขี้อ้อน และเป็นมิตร จึงสร้างรอยยิ้มและความสุขให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่พบเห็นอยู่เสมอ

สำหรับยศที่มอบให้กับสุนัขตรวจค้นวัตถุระเบิดและสุนัขดมกลิ่นยาเสพติด มีตั้งแต่ยศสุนัขตำรวจตรี สุนัขตำรวจโท และสุนัขตำรวจเอก โดยสุนัขที่ได้ยศสุนัขตำรวจตรี จะได้รับปลอกคอประดับกระดุมสีทองแดง สุนัขตำรวจโท ได้รับปลอกคอประดับกระดุมสีเงิน และสุนัขตำรวจเอก ได้รับปลอกคอประดับกระดุมสีทอง


การให้ยศกับสุนัขตำรวจ เป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ยศหรือรางวัลสุนัขตำรวจ ตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกำหนดให้สุนัขตำรวจที่ผ่านการฝึกตามหลักสูตรและผ่านการทดลองปฏิบัติหน้าที่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน เมื่อผ่านการประเมินจากคณะกรรมการประเมินผลจะได้รับสุนัขตำรวจตรี

ทั้งนี้ สุนัขตำรวจตรีที่ได้ปฏิบัติหน้าที่มาไม่น้อยกว่า 3 ปี และผ่านการตรวจประเมิน จะได้รับยศสุนัขตำรวจโท และสุนัขตำรวจโทที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่น้อยกว่า 3 ปี และผ่านการประเมิน จะได้รับยศสุนัขตำรวจเอก และเมื่อสุนัขตำรวจเอกที่ปฏิบัติหน้าที่ครบ 2 ปี ให้คณะกรรมการทำการตรวจสอบเพื่อขอปลดประจำการ ซึ่งระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามอายุเฉลี่ยการทำงานของสุนัขตำรวจที่จะมีอายุการทำงานเฉลี่ยที่ 8 ปี

สุนัขตำรวจที่ปลดประจำการเกือบทั้งหมดจะถูกรับเลี้ยงต่อโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ฝึกสอน ส.ต.ท.เกียรติชัย เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมสุนัขตำรวจเบลล่า ให้สัมภาษณ์ว่า “ตนมีความตั้งใจที่จะดูแลน้องไปตลอด เมื่อเบลล่าถูกปลดประจำการเมื่ออายุครบ 8 ปี จะนำน้องไปดูแลต่อที่บ้าน จากความรักความผูกพันที่ได้ทำงานร่วมกันมา จึงทำใจไม่ได้ที่จะยกให้คนอื่นไปดูแล”

นอกจากนี้ พ.ต.ต.ภูวดล ได้ฝากถึงประชาชนที่พบเห็นการปฏิบัติงานของสุนัขตำรวจว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความยินดีที่ประชาชนมีความเอ็นดูต่อสุนัขตำรวจ ขอความร่วมมือประชาชนขออนุญาตและแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมก่อนที่จะเข้ามาเล่นหรือสัมผัสสุนัข และขอความกรุณาไม่รบกวนในขณะสุนัขตำรวจปฏิบัติหน้าที่”

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการประชุมท่ามกลางบรรยากาศการฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และเป็นการสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะภาคการเดินทางและท่องเที่ยว จึงอยากประชาสัมพันธ์ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบวัตถุต้องสงสัย ข้อมูล เบาะแส ที่เป็นภัยหรือความมั่นคง ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปตรวจสอบโดยเร็ว โทร.191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553