นายกฯ เปิดงานเดือนแห่งสุขภาพใจ “Mind Month”

ทำเนียบ 6 พ.ค.-นายกฯ เปิดงาน เดือนแห่งสุขภาพใจ “Mind Month” ชูดูแลสุขภาพจิตตั้งแต่เด็ก ให้ครอบครัวเป็นพื้นที่ปลอดภัย เผยเป็นเรื่องดีให้สังคมเข้าใจปัญหาสุขภาพจิตมาก บอกการพบแพทย์ไม่ใช่เรื่องแปลก เตรียมตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาสุขภาพจิต37 แห่งภายใน พ.ค.นี้ และขยายเป็น 340 แห่งภายในสิ้นปี68

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานเดือนแห่งสุขภาพใจ “Mind Month” ภายใต้แนวคิด สุขภาพใจเป็นเรื่องของผู้คน ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และตัวแทนเข้าร่วมงาน


นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า ในโอกาสนี้ เรามารวมตัวกันในการเปิดกิจกรรมเดือนแห่งสุขภาพใจ ตนเองรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานในวันนี้ ที่จริงแล้วสุขภาพจิต สุขภาพใจ เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่มักถูกมองข้ามไป ในส่วนตัวตนเองแล้ว ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตที่ดี เมื่อเรามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว ถ้าสุขภาพจิตเราไม่แข็งแรง ก็จะทำอะไรต่าง ๆ ต่อไปนี้ในชีวิต ก็เป็นไปได้ค่อนข้างยาก หรือถ้าใจเราไม่มีความสุข หรือไม่มีจุดความสงบ การทำเรื่องต่อไปในชีวิต ก็จะเป็นไปได้ยาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่เมื่อ ตนเองชมบูธด้านนอก รู้สึกประทับใจมากที่ตอนนี้ประเทศไทยได้หันมามุ่งเน้นในการช่วยน้อง ๆ เด็กตัวเล็กๆ ที่ยังเป็นอนาคตของชาติในอีกไม่กี่ปี ให้เขาได้มีการรู้วิธีการดูแลจิตใจตัวเอง และเข้าปรึกษาหาแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น อย่างที่ทราบดี ตนเองมีลูกเล็กอยู่สองคน ก็รู้สึกว่าเป็นการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเขา เพราะอย่างน้อย ๆ เราเป็นแม่ ไม่ว่าจะเป็นแม่มานานแค่ไหน บางคนอาจเพิ่งตั้งท้องก็ได้ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญคือการที่เราให้เวลาหรือให้การรับฟังลูกของเรา ตนเองงานยุ่ง อาจไม่ได้มีเวลามาก แต่เมื่อมีเวลาก็พยายามรับฟังเขามากกว่าการที่จะสอน ตั้งใจฟังลูกเป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อตั้งใจฟังจริง ๆ แล้วก็เป็นหัวใจว่าเด็กต้องการสื่ออะไร ไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กก็ได้ ผู้ใหญ่เองเมื่อมีปัญหา เมื่อมีคนที่รับฟังพร้อม ที่จะเข้าใจ ยังไม่มีทางออกก็ดีขึ้นได้ เพราะรู้สึกมีคนที่รับฟังเราได้ ก็เป็นการปลูกฝังให้น้อง ๆ ฝึกที่จะสื่อสาร และให้ผู้ใหญ่ฝึกที่จะรับฟัง ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอนในอนาคต


นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องของสุขภาพกายหลายท่านที่ใกล้ชิดกับคุณหมอ เมื่อคนไข้มีกำลังใจที่ดี เราจะสามารถผ่านวิกฤติเรื่องสุขภาพไปได้ดีด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น เมื่อมาคู่กัน ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ เราเองก็ต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนด้วยว่าสุขภาพจิต สุขภาพใจ การเข้าพบแพทย์ หรือการเข้ารับคำปรึกษาไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ได้แปลว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เป็นการที่เราเริ่มจะรู้ตัวเองว่าเราต้องดูแลตัวเองอย่างไร เหมือนตอนที่หิวอาหาร ต้องรู้ว่าต้องทานอาหารให้ครบห้าหมู่ เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาสภาพจิตใจ เราจะสามารถทำให้เรื่องนี้ปกติมากยิ่งขึ้น และแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ให้คนมีทางออกว่าในชีวิตแต่ละคน มีกระบวนการตัดสินใจที่อาจไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้ามีทางออกมีที่พึ่ง เราก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้อย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ต้องขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขที่เน้นย้ำในเรื่องนี้ และมุ่งมั่นในเรื่องนี้อย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองไปพบผู้ประสบภัยน้ำท่วมแถวภาคเหนือเมื่อปีที่ผ่านมา ก็ได้ปรึกษารัฐมนตรีว่าจะมีทางไหนที่ช่วยเหลือด้านจิตใจด้วย โดยอาจมุ่งเน้นไปที่สภาพความเป็นอยู่ และอาหารการกิน แต่หลังจากนั้น เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่มันกระทันหัน ต้องสูญเสียบ้านที่อยู่ เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก เพราะฉะนั้น เรื่องจิตใจนี่แหละ ที่ต้องถูกเยียวยาด้วย รัฐบาลสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และอยากให้น้องน้องโตขึ้นไปอย่างแข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันนี้มีตัวเลขที่เราเน้นในเรื่องของระบบสาธารณสุขที่ต้องส่งเสริมต้องการดูแลฟื้นฟู จะเห็นได้จากนโยบายสำคัญด้านสุขภาพจิตที่จะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งในปีนี้จะครอบคลุมคนไทยทุกช่วงวัยมากกว่า 13.5 ล้านคนโดยเฉพาะนโยบายสำคัญอย่างการจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต 37 แห่งภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และขยายเป็น 340 แห่งภายในสิ้นปีนี้ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนกว่าล้านคนได้รับการปรึกษา และได้รับการดูแลก่อนที่จะมีอาการเจ็บป่วยทางใจ เด็กตัวเล็ก ๆ โตขึ้นมาเป็นวัยรุ่น ในมหาวิทยาลัย การที่จะล้ม และเริ่มขึ้นมาใหม่อย่างแข็งแรง ก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้มาก เพราะฉะนั้น ก็สนับสนุนตรงนี้อย่างเต็มที่ และจะมีกิจกรรม และโครงการต่าง ๆ อีก 50 เรื่องที่เริ่มต้นในเดือนแห่งสุขภาพใจนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามภาครัฐที่จะทำให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดี และให้สังคมไทยหันมาสนใจ และพูดคุยเรื่องสุขภาพจิตได้อย่างเปิดเผย อย่างที่บอกว่าเมื่อเรื่องนี้เป็นไปอย่างแพร่หลายแล้ว คนที่เข้าหา และได้รับคำปรึกษา จะไม่ได้คิดว่าตัวเองดีไม่พอ หรือเป็นอะไรแต่เป็นการดูแลตัวเองอย่างหนึ่งที่สำคัญ ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า จุดเริ่มต้นของจิตใจที่เข้มแข็งมาจากครอบครัวที่เปิดใจรับฟัง และเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์ให้กัน


“ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพจิตทางกาย ทางใจ คนในครอบครัว คนรอบข้างรับฟังอย่างเข้าใจ อย่าด่วนตัดสิน อย่ารีบให้คำปรึกษาในการตั้งใจรับฟังเป็นสิ่งเริ่มต้นที่ดีที่สุด และที่สำคัญอย่าลืมดูแลจิตใจของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และขอให้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งสุขภาพใจเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมไทยที่จะเข้าใจซึ่งกันและกัน และพร้อมเดินทางไปข้างหน้าร่วมกันอย่างมีความสุข” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้นเป็นการเสวนา หัวข้อสุขภาพใจเริ่มต้นได้ที่ครอบครัว “โดยมีตัวแทนครอบครัวในสายอาชีพต่างๆจำนวน 20 ครอบครัว ที่ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรี

โดยครอบครัวอินฟูลเอนเซอร์ ที่เปิดเพจ เกี่ยวกับครอบครัวได้สอบถามนายกรัฐมนตรีว่า เมื่อต้องเจอกับความคาดหวังจากทั้งตัวเองและคนรอบข้าง จะรับมืออย่างไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สุดท้ายแล้วการปรึกษาคุณหมอจะดีที่สุด เด็ก ๆ อายุ 5 – 7 ขวบ ตามแนวทางของตนเอง เมื่อครอบครัวเข้มแข็ง แข็งแรงเป็นหลังพิงของกันและกัน เป็นสิ่งที่ทำให้เราไปต่อได้ยาว ๆ เด็กตัวน้อย ๆ ไม่ได้สนใจกระแสสังคม เรานี่แหละที่สนใจกระแสสังคม เพราะฉะนั้น จะทำอย่างไรให้ลูกรู้สึกได้ว่าเขาปลอดภัย เพราะถ้าพ่อแม่มั่นคง ถ้าคาดหวังลูก ๆ เขาจะทำได้หรือเปล่า ไม่ทราบ แต่แน่นอนว่าจะเสียกำลังใจ เหมือนเราให้ของเล่นสองขวบกับแปดขวบ ระยะห่างมันมากเกินไปต้องคาดหวังไว้ และตามอายุถ้าเขารู้ว่าแม่กับพ่อยังเปิดโอกาส และเข้าใจเขาเสมอ กระแสสังคมเขายังไม่ได้สนใจ แต่ตัวเราเอง แม้เราจะอยู่ในสาธารณะมากขึ้น เราก็ต้องพยายามมีสติอยู่เสมอว่าวันนี้ทำเพื่ออะไร เป้าหมายในชีวิตคืออะไร และความคาดหวังนั้นจะนิ่งขึ้น เหมือนสุดท้ายแล้วการดำเนินชีวิตไปเรื่อย ๆ จะหลงอะไรกับข้างทาง อยากให้คนเข้าใจจิตวิทยามากขึ้น ต้องถามตัวเองว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นใช่หรือไม่ บวกหรือลบไปต่อได้หรือไม่ ถูกทางหรือเปล่า ตามความตั้งใจแรกของเรา ตนเองเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าพ่อแม่มีความตั้งใจที่แน่วแน่ และเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็นเสมอ ไม่ว่าจะโดนใครตัดสินจากสังคม แต่สุดท้ายแล้วคนที่รู้จักเขาดีคือคุณแม่ หรือคุณพ่อที่เข้าใจเขา นั่นคือกำลังใจทั้งหมด เพราะฉะนั้น ถ้าเด็กสร้างจากตรงนี้ได้วันนึงที่เขาเข้าใจกระแสสังคม แล้วเขาจะแข็งแรงขึ้น และรู้ว่าใจเขานิ่งได้เพราะมีฐานที่มั่นคง

ขณะที่ตัวแทนครอบครัวคู่รัก LGBTQ+ ได้สอบถามนายกรัฐมนตรีว่าจะทำอย่างไรให้คนในสังคมเข้าใจและเชื่อมั่น ในเรื่องของการสมรสเท่าเทียมและมีลูก

โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ความรักทุกรูปแบบเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างกัน หรือความรักจากพ่อและแม่ที่ให้ลูก ไม่ว่าจะโตมากับใครก็ตาม เขาเข้มแข็งได้และเป็นคนที่ดีต่อสังคมได้เช่นกัน ไม่ต้องพูดถึงคู่รักแบบอื่น หรือความสัมพันธ์ในครอบครัวแบบอื่น เพราะเขาก็เป็นคนสำคัญของประเทศชาติ และโลกได้ เพราะมีความรักที่มั่นคง

“มนุษย์ต้องการความรักที่รู้สึกมั่นคง ไม่ว่าจะจากใครคนใดคนหนึ่งที่เลี้ยงมา และรักเราจริง ๆ ตอนนี้คิดว่าสองคนรักกัน ทราบดีอยู่แล้วว่าความรักนี้จริงหรือไม่ มีประโยชน์มีคุณค่ามีความหมายต่อชีวิตของท่านเองมากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้น คนเรายังชอบสีไม่เหมือนกันเลย คนเราชอบไม่เหมือนกันตนเองถ้าจะพูดในมุมมองถ้าวันนึงลูกของดิฉันเลือกทางไหนก็ตามที่เขามีความสุขแล้วรู้จักว่าผิดพลาด แล้วลุกขึ้นมาได้ โดยไม่จมไปกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ดิฉันจะคิดเลยว่าลูกนั้นเก่งมาก”

นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำให้ตัวเองล้มแล้วลุกขึ้นได้ และเดินต่ออย่างแข็งแรงได้นั้น ตนเองว่าเก่ง เพราะฉะนั้น เราไม่สามารถควบคุมอะไรในอนาคตได้ ไม่สามารถควบคุมแม้กระทั่งคนที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเราได้ เพราะฉะนั้น ความคิดของคนในสังคมที่มีมาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย แต่ก็จะมีเรื่องที่ชอบ และไม่ชอบตลอดไป ดังนั้น การรักกันในครอบครัว และเป็นที่พึ่งของกันและกันคือรากฐานที่สำคัญที่สุด ที่ไม่ว่าจะโตขึ้นอายุเท่าไหร่อาชีพอะไรชีวิตจะเปลี่ยนยังไงก็จะมีความมั่นคงในส่วนอื่นเพราะฉะนั้นเราโฟกัสในคนของเราว่าเราทำให้กันและกันเข้มแข็งได้ไหม.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย