นายกฯ เปิดงานเดือนแห่งสุขภาพใจ “Mind Month”

ทำเนียบ 6 พ.ค.-นายกฯ เปิดงาน เดือนแห่งสุขภาพใจ “Mind Month” ชูดูแลสุขภาพจิตตั้งแต่เด็ก ให้ครอบครัวเป็นพื้นที่ปลอดภัย เผยเป็นเรื่องดีให้สังคมเข้าใจปัญหาสุขภาพจิตมาก บอกการพบแพทย์ไม่ใช่เรื่องแปลก เตรียมตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาสุขภาพจิต37 แห่งภายใน พ.ค.นี้ และขยายเป็น 340 แห่งภายในสิ้นปี68

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานเดือนแห่งสุขภาพใจ “Mind Month” ภายใต้แนวคิด สุขภาพใจเป็นเรื่องของผู้คน ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และตัวแทนเข้าร่วมงาน


นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า ในโอกาสนี้ เรามารวมตัวกันในการเปิดกิจกรรมเดือนแห่งสุขภาพใจ ตนเองรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานในวันนี้ ที่จริงแล้วสุขภาพจิต สุขภาพใจ เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่มักถูกมองข้ามไป ในส่วนตัวตนเองแล้ว ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตที่ดี เมื่อเรามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว ถ้าสุขภาพจิตเราไม่แข็งแรง ก็จะทำอะไรต่าง ๆ ต่อไปนี้ในชีวิต ก็เป็นไปได้ค่อนข้างยาก หรือถ้าใจเราไม่มีความสุข หรือไม่มีจุดความสงบ การทำเรื่องต่อไปในชีวิต ก็จะเป็นไปได้ยาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่เมื่อ ตนเองชมบูธด้านนอก รู้สึกประทับใจมากที่ตอนนี้ประเทศไทยได้หันมามุ่งเน้นในการช่วยน้อง ๆ เด็กตัวเล็กๆ ที่ยังเป็นอนาคตของชาติในอีกไม่กี่ปี ให้เขาได้มีการรู้วิธีการดูแลจิตใจตัวเอง และเข้าปรึกษาหาแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น อย่างที่ทราบดี ตนเองมีลูกเล็กอยู่สองคน ก็รู้สึกว่าเป็นการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเขา เพราะอย่างน้อย ๆ เราเป็นแม่ ไม่ว่าจะเป็นแม่มานานแค่ไหน บางคนอาจเพิ่งตั้งท้องก็ได้ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญคือการที่เราให้เวลาหรือให้การรับฟังลูกของเรา ตนเองงานยุ่ง อาจไม่ได้มีเวลามาก แต่เมื่อมีเวลาก็พยายามรับฟังเขามากกว่าการที่จะสอน ตั้งใจฟังลูกเป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อตั้งใจฟังจริง ๆ แล้วก็เป็นหัวใจว่าเด็กต้องการสื่ออะไร ไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กก็ได้ ผู้ใหญ่เองเมื่อมีปัญหา เมื่อมีคนที่รับฟังพร้อม ที่จะเข้าใจ ยังไม่มีทางออกก็ดีขึ้นได้ เพราะรู้สึกมีคนที่รับฟังเราได้ ก็เป็นการปลูกฝังให้น้อง ๆ ฝึกที่จะสื่อสาร และให้ผู้ใหญ่ฝึกที่จะรับฟัง ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอนในอนาคต


นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องของสุขภาพกายหลายท่านที่ใกล้ชิดกับคุณหมอ เมื่อคนไข้มีกำลังใจที่ดี เราจะสามารถผ่านวิกฤติเรื่องสุขภาพไปได้ดีด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น เมื่อมาคู่กัน ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ เราเองก็ต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนด้วยว่าสุขภาพจิต สุขภาพใจ การเข้าพบแพทย์ หรือการเข้ารับคำปรึกษาไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ได้แปลว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เป็นการที่เราเริ่มจะรู้ตัวเองว่าเราต้องดูแลตัวเองอย่างไร เหมือนตอนที่หิวอาหาร ต้องรู้ว่าต้องทานอาหารให้ครบห้าหมู่ เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาสภาพจิตใจ เราจะสามารถทำให้เรื่องนี้ปกติมากยิ่งขึ้น และแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ให้คนมีทางออกว่าในชีวิตแต่ละคน มีกระบวนการตัดสินใจที่อาจไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้ามีทางออกมีที่พึ่ง เราก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้อย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ต้องขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขที่เน้นย้ำในเรื่องนี้ และมุ่งมั่นในเรื่องนี้อย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองไปพบผู้ประสบภัยน้ำท่วมแถวภาคเหนือเมื่อปีที่ผ่านมา ก็ได้ปรึกษารัฐมนตรีว่าจะมีทางไหนที่ช่วยเหลือด้านจิตใจด้วย โดยอาจมุ่งเน้นไปที่สภาพความเป็นอยู่ และอาหารการกิน แต่หลังจากนั้น เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่มันกระทันหัน ต้องสูญเสียบ้านที่อยู่ เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก เพราะฉะนั้น เรื่องจิตใจนี่แหละ ที่ต้องถูกเยียวยาด้วย รัฐบาลสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และอยากให้น้องน้องโตขึ้นไปอย่างแข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันนี้มีตัวเลขที่เราเน้นในเรื่องของระบบสาธารณสุขที่ต้องส่งเสริมต้องการดูแลฟื้นฟู จะเห็นได้จากนโยบายสำคัญด้านสุขภาพจิตที่จะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งในปีนี้จะครอบคลุมคนไทยทุกช่วงวัยมากกว่า 13.5 ล้านคนโดยเฉพาะนโยบายสำคัญอย่างการจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต 37 แห่งภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และขยายเป็น 340 แห่งภายในสิ้นปีนี้ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนกว่าล้านคนได้รับการปรึกษา และได้รับการดูแลก่อนที่จะมีอาการเจ็บป่วยทางใจ เด็กตัวเล็ก ๆ โตขึ้นมาเป็นวัยรุ่น ในมหาวิทยาลัย การที่จะล้ม และเริ่มขึ้นมาใหม่อย่างแข็งแรง ก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้มาก เพราะฉะนั้น ก็สนับสนุนตรงนี้อย่างเต็มที่ และจะมีกิจกรรม และโครงการต่าง ๆ อีก 50 เรื่องที่เริ่มต้นในเดือนแห่งสุขภาพใจนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามภาครัฐที่จะทำให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดี และให้สังคมไทยหันมาสนใจ และพูดคุยเรื่องสุขภาพจิตได้อย่างเปิดเผย อย่างที่บอกว่าเมื่อเรื่องนี้เป็นไปอย่างแพร่หลายแล้ว คนที่เข้าหา และได้รับคำปรึกษา จะไม่ได้คิดว่าตัวเองดีไม่พอ หรือเป็นอะไรแต่เป็นการดูแลตัวเองอย่างหนึ่งที่สำคัญ ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า จุดเริ่มต้นของจิตใจที่เข้มแข็งมาจากครอบครัวที่เปิดใจรับฟัง และเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์ให้กัน


“ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพจิตทางกาย ทางใจ คนในครอบครัว คนรอบข้างรับฟังอย่างเข้าใจ อย่าด่วนตัดสิน อย่ารีบให้คำปรึกษาในการตั้งใจรับฟังเป็นสิ่งเริ่มต้นที่ดีที่สุด และที่สำคัญอย่าลืมดูแลจิตใจของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และขอให้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งสุขภาพใจเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมไทยที่จะเข้าใจซึ่งกันและกัน และพร้อมเดินทางไปข้างหน้าร่วมกันอย่างมีความสุข” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้นเป็นการเสวนา หัวข้อสุขภาพใจเริ่มต้นได้ที่ครอบครัว “โดยมีตัวแทนครอบครัวในสายอาชีพต่างๆจำนวน 20 ครอบครัว ที่ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรี

โดยครอบครัวอินฟูลเอนเซอร์ ที่เปิดเพจ เกี่ยวกับครอบครัวได้สอบถามนายกรัฐมนตรีว่า เมื่อต้องเจอกับความคาดหวังจากทั้งตัวเองและคนรอบข้าง จะรับมืออย่างไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สุดท้ายแล้วการปรึกษาคุณหมอจะดีที่สุด เด็ก ๆ อายุ 5 – 7 ขวบ ตามแนวทางของตนเอง เมื่อครอบครัวเข้มแข็ง แข็งแรงเป็นหลังพิงของกันและกัน เป็นสิ่งที่ทำให้เราไปต่อได้ยาว ๆ เด็กตัวน้อย ๆ ไม่ได้สนใจกระแสสังคม เรานี่แหละที่สนใจกระแสสังคม เพราะฉะนั้น จะทำอย่างไรให้ลูกรู้สึกได้ว่าเขาปลอดภัย เพราะถ้าพ่อแม่มั่นคง ถ้าคาดหวังลูก ๆ เขาจะทำได้หรือเปล่า ไม่ทราบ แต่แน่นอนว่าจะเสียกำลังใจ เหมือนเราให้ของเล่นสองขวบกับแปดขวบ ระยะห่างมันมากเกินไปต้องคาดหวังไว้ และตามอายุถ้าเขารู้ว่าแม่กับพ่อยังเปิดโอกาส และเข้าใจเขาเสมอ กระแสสังคมเขายังไม่ได้สนใจ แต่ตัวเราเอง แม้เราจะอยู่ในสาธารณะมากขึ้น เราก็ต้องพยายามมีสติอยู่เสมอว่าวันนี้ทำเพื่ออะไร เป้าหมายในชีวิตคืออะไร และความคาดหวังนั้นจะนิ่งขึ้น เหมือนสุดท้ายแล้วการดำเนินชีวิตไปเรื่อย ๆ จะหลงอะไรกับข้างทาง อยากให้คนเข้าใจจิตวิทยามากขึ้น ต้องถามตัวเองว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นใช่หรือไม่ บวกหรือลบไปต่อได้หรือไม่ ถูกทางหรือเปล่า ตามความตั้งใจแรกของเรา ตนเองเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าพ่อแม่มีความตั้งใจที่แน่วแน่ และเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็นเสมอ ไม่ว่าจะโดนใครตัดสินจากสังคม แต่สุดท้ายแล้วคนที่รู้จักเขาดีคือคุณแม่ หรือคุณพ่อที่เข้าใจเขา นั่นคือกำลังใจทั้งหมด เพราะฉะนั้น ถ้าเด็กสร้างจากตรงนี้ได้วันนึงที่เขาเข้าใจกระแสสังคม แล้วเขาจะแข็งแรงขึ้น และรู้ว่าใจเขานิ่งได้เพราะมีฐานที่มั่นคง

ขณะที่ตัวแทนครอบครัวคู่รัก LGBTQ+ ได้สอบถามนายกรัฐมนตรีว่าจะทำอย่างไรให้คนในสังคมเข้าใจและเชื่อมั่น ในเรื่องของการสมรสเท่าเทียมและมีลูก

โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ความรักทุกรูปแบบเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างกัน หรือความรักจากพ่อและแม่ที่ให้ลูก ไม่ว่าจะโตมากับใครก็ตาม เขาเข้มแข็งได้และเป็นคนที่ดีต่อสังคมได้เช่นกัน ไม่ต้องพูดถึงคู่รักแบบอื่น หรือความสัมพันธ์ในครอบครัวแบบอื่น เพราะเขาก็เป็นคนสำคัญของประเทศชาติ และโลกได้ เพราะมีความรักที่มั่นคง

“มนุษย์ต้องการความรักที่รู้สึกมั่นคง ไม่ว่าจะจากใครคนใดคนหนึ่งที่เลี้ยงมา และรักเราจริง ๆ ตอนนี้คิดว่าสองคนรักกัน ทราบดีอยู่แล้วว่าความรักนี้จริงหรือไม่ มีประโยชน์มีคุณค่ามีความหมายต่อชีวิตของท่านเองมากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้น คนเรายังชอบสีไม่เหมือนกันเลย คนเราชอบไม่เหมือนกันตนเองถ้าจะพูดในมุมมองถ้าวันนึงลูกของดิฉันเลือกทางไหนก็ตามที่เขามีความสุขแล้วรู้จักว่าผิดพลาด แล้วลุกขึ้นมาได้ โดยไม่จมไปกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ดิฉันจะคิดเลยว่าลูกนั้นเก่งมาก”

นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำให้ตัวเองล้มแล้วลุกขึ้นได้ และเดินต่ออย่างแข็งแรงได้นั้น ตนเองว่าเก่ง เพราะฉะนั้น เราไม่สามารถควบคุมอะไรในอนาคตได้ ไม่สามารถควบคุมแม้กระทั่งคนที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเราได้ เพราะฉะนั้น ความคิดของคนในสังคมที่มีมาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย แต่ก็จะมีเรื่องที่ชอบ และไม่ชอบตลอดไป ดังนั้น การรักกันในครอบครัว และเป็นที่พึ่งของกันและกันคือรากฐานที่สำคัญที่สุด ที่ไม่ว่าจะโตขึ้นอายุเท่าไหร่อาชีพอะไรชีวิตจะเปลี่ยนยังไงก็จะมีความมั่นคงในส่วนอื่นเพราะฉะนั้นเราโฟกัสในคนของเราว่าเราทำให้กันและกันเข้มแข็งได้ไหม.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

ไทยย้ำกัมพูชาละเมิดทุกกฎกติกา วางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กระทรวงการต่างประเทศ 15 ส.ค.- กต. เชิญคณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ชี้ “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ลอบวางทุ่นระเบิดสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า จงใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ขอผู้บริจาคสนับสนุนกัมพูชา ดำเนินทุกทางให้กัมพูชาหยุดวางทุ่นฯ อย่างไร้มนุษยธรรม พร้อมโชว์ทุ่นระเบิด PMN-2 ของกัมพูชา เก็บกู้ที่ช่องโดนเอาว์-กฤษณา และจุ๊บตาโมก กระทรวงการต่างประเทศ เชิญคณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา โดยมีผู้เข้าร่วม 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ ในจำนวนนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาเข้าร่วมรับฟังด้วย โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดการบรรยายผ่านบันทึกวิดีทัศน์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 และเข้าร่วมการหารือกับประเทศสมาชิก ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ […]