รัฐบาลเตือน! ศึกษาข้อมูลให้ดี ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

ทำเนียบ 20 ส.ค.-รัฐบาลเตือนคนไทยที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ ศึกษาข้อมูล/ข้อห้ามให้ดี หลังพบถูกส่งกลับ จับกุมหลายกรณี

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศให้ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศนั้นๆ ให้ดีก่อนเดินทาง เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาระหว่างเดินทาง ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ช่วงที่ผ่านมามีคนไทยถูกส่งตัวกลับประเทศ หรือถูกจับกุมตัวดำเนินคดีในต่างประเทศในหลายกรณีดังนี้ 1. ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเกาหลีใต้ได้ปฏิเสธการเข้าเมืองของคนไทย 2 เที่ยวบินในเวลาใกล้เคียงกัน รวมถึงมีกรณีปลีกย่อยเกี่ยวกับปฏิเสธการเข้าเมืองอีกจำนวนมาก เนื่องจากพิจารณาจากหลักฐานและข้อมูลแล้วเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่คนไทยเหล่านี้น่าจะมุ่งลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งการลักลอบเข้าประเทศเกาหลีใต้ มีโทษทั้งปรับและจำคุก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมายไม่ต้องโทษคดีอาญา และได้รับวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่สามภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 หากเดินทางออกจากเกาหลีใต้ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 จะได้รับการยกเว้นค่าปรับและไม่ถูกบรรจุชื่อในบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้ โดยสามารถไปรายงานตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนการเดินทาง


2.การนำกัญชาออกนอกประเทศเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างมาก เพราะกฎหมายในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน คนไทยที่นำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวติดตัวขณะเดินทางไปยังประเทศที่กฎหมายห้าม อาจถูกลงโทษตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ โดยโทษมีตั้งแต่การปรับเงิน เนรเทศ จำคุกตลอดชีวิต ไปจนถึงประหารชีวิต จึงขอย้ำเตือนให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายและบทลงโทษของแต่ละประเทศอย่างละเอียดก่อนการเดินทาง 3.กรณีที่ประสงค์ไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี กาตาร์ โอมานและบาห์เรน ขอให้ระวังการชักชวนจากนายหน้า หรือกลุ่มแม่แท็กที่มักจะชวนให้ไปทำงานประเภทนวดแผนไทย/สปา โดยอ้างว่าไม่ต้องแสดงหลักฐานหนังสือเดินทางและวีซ่า และสามารถเดินทางเข้าช่องทางปกติที่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแล หรือมีเงื่อนไขการทำงานหรือให้ผลตอบแทนที่ดีจนผิดปกติ

การเข้าไปทำงานผ่านช่องทางรูปแบบนี้ จะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายใด ๆ และไม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและเงินชดเชยได้หากถูกโกงสัญญาจ้างงาน ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกบังคับค้าประเวณี หรือถูกกักบริเวณ เนื่องจากเป็นการลักลอบทำงานโดยใช้วีซ่าผิดประเภท


“นายกรัฐมนตรี ฝากให้เน้นย้ำว่า คนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศขอให้ตรวจสอบเรื่องแนวปฏิบัติและข้อกฎหมายของประเทศนั้นๆให้ดี ไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือไปทำงาน และขอให้เคารพกฎหมายและกฎระเบียบท้องถิ่น สำหรับผู้ที่จะไปทำงาน ขอให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานและรายละเอียดสัญญาว่าจ้างให้รอบคอบ จะได้ไม่ถูกหลอกหรือเอาเปรียบ ทั้งนี้ ประชาชนที่มีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ หรือหากประสบปัญหาในต่างประเทศ ติดต่อสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ไทยในประเทศนั้น ๆ หรือช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์หรือเฟซบุค รวมถึง ติดต่อ Call Center กรมการกงสุล หมายเลข 02 572 8442 ได้ตลอด 24 ชม.” นางสาวรัชดา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ญาติแรงงานไทยเฮลั่นบ้านหลังเห็นภาพการปล่อยตัว

1 ปีกว่า กับการรอคอยสุดทรมาน แต่วันนี้ครอบครัวแรงงานไทย ทั้ง 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัว ยิ้มออก โล่งใจ บอกว่าเป็นวันที่รอคอย ปาฏิหาริย์มีจริง