รัฐสภา 4 เม.ย.- ประธาน กรธ.เตรียมส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง เข้า สนช. 18 เม.ย.นี้ พร้อมย้ำ กรธ.ยึดกรอบพิจารณากฎหมายลูก 8 เดือนเต็ม ยืนยัน ทุกฝ่ายต้องสนใจรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะเป็นกลไกให้ประเทศพัฒนาได้ ขณะที่การใช้คำสั่ง ม.44 ต้องไม่ขัด รธน.
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า กรธ.เตรียมส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 18 เมษายนนี้ จากนั้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป จะทยอยส่งร่างกฎหมายลูกที่เหลืออีก 8 ฉบับไปยัง สนช.เดือนละ 1 ฉบับ ส่วนร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.จะพิจารณาส่งให้ สนช.เมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมกับการเลือกตั้งของ กกต.และพรรคการเมือง
นายมีชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนกรอบเวลาการพิจารณากฎหมายลูกของ กรธ. เบื้องต้นเป็นไปตามกรอบเวลา 8 เดือน จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.อีก 90 วันและรอการประกาศใช้กฎหมายลูก เมื่อกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งประกาศใช้ครบทั้ง 4 ฉบับ จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน ทั้งนี้ ยังไม่สามารถตอบได้ว่าหากมีความเห็นที่ขัดแย้งกันระหว่าง สนช. องค์กรอิสระ ศาล และ กรธ.ในเนื้อหาของกฎหมายลูก จนร่างกฎหมายลูกถูก สนช.ตีตก การเลือกตั้งจะต้องเลื่อนออกไปหรือไม่ แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิดความขัดแย้งจนทำให้กฎหมายลูกต้องตกไป
“หลังรัฐธรรมนูญนี้ประกาศใช้ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ และประชาชนจะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งทุกคนต้องให้ความสนใจรัฐธรรมนูญมากขึ้น เนื่องจากในบทบัญญัติมีกลไกใหม่ที่ทำให้ประเทศได้พัฒนาไปสู่ความดีงาม ขณะที่การใช้คำสั่งตามมาตรา 44 จะต้องไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญนี้เช่นกัน และขณะนี้ ยังคงมีคำสั่งของ คสช.ที่ควบคุมเรื่องการดำเนินกิจกรรมพรรคการเมืองอยู่ แต่ คสช.จะปลดล็อค เมื่อร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยพรรคการเมืองประกาศใช้ คาดว่า คสช.จะให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมอย่างเต็มที่” นายมีชัย กล่าว
นายมีชัย เปิดเผยในฐานะคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า ขณะนี้ ได้ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยแผนและวิธีการปฏิรูป และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเสร็จสิ้นแล้ว และทันทีที่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ก่อนส่งให้ สนช.พิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป โดยมีกรอบเวลาทั้งกระบวนการ ทั้งสิ้น 120 วัน พร้อมกันนี้ เชื่อว่าหาก สนช.และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ลาออกในช่วง 90 วันหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ เพื่อเตรียมลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณากฎหมายลูก เนื่องจากสามารถแต่งตั้งคนมาทำงานแทนได้.-สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images/1491293653493.jpg)