ทำเนียบฯ 3 เม.ย. – “วิษณุ” ยืนยันเสียภาษีเงินได้ถูกต้อง พร้อมชี้แจงป.ป.ช. และกรมสรรพากร รับมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ไม่เคยปกปิดส่งลูกเรียนเมืองนอก แนะ “เรืองไกร” ไปขอข้อมูลจากป.ป.ช.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้เปิดเผยประวัติการเสียภาษีในช่วงระหว่างปี 2548 – 2557 หลังจากพบมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 87.5 ล้านบาท ว่า ไม่ขอตอบโต้ชี้แจง เรื่องการเสียภาษีกับนายนายเรืองไกร แต่ยินดีจะชี้แจงกับหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบเท่านั้น คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกรมสรรพากร
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมแนบใบเสียภาษีเงินได้อย่างถูกต้อง และมีหลักฐาน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาทุจริต แต่เป็นเรื่องของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น หลังออกจากตำแหน่งสมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรี รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร แล้วทิ้งช่วงไป 9 ปีระหว่างนั้น แล้วไปทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่าง ๆ และลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเป็นเงินที่ลงทุนใน LTF และ RMF และจากอสังหาริมทรัพย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มูลค่าทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับ 60 นักการเมือง ที่ถูกกรมสรรพากรให้ไปชี้แจงการเสียภาษีเงินได้ โดยกรมสรรพากรได้รายงานกลับมาแล้วว่า เป็นเรื่องของราคาทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
“ถ้าทรัพย์สินเหล่านั้นมางอกเงยตอนกำลังดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เช่น ตอนเข้ามามี 100 ล้านบาท และตอนออกไปมี 200 ล้านบาท อย่างนั้นจะผิดปกติ แต่นี่มันทิ้งช่วงไป แล้วก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินอะไร ผมก็ไปทำมาหากิน ไปเป็นกรรมการบริษัท แล้วก็มีทรัพย์สินงอกเงยขึ้นมาจริง แต่เพิ่มมากี่ล้านบาท ผมจำไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของทรัพย์สิน ไม่ใช่เรื่องของรายได้ หรือเงินสดที่มากองอยู่” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กังวล และไม่เคยปกปิดทรัพย์สินที่ได้มา รวมถึงเรื่องส่งบุตรชายไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็เป็นเรื่องที่รับรู้โดยทั่วไป จึงไม่กังวลและตื่นเต้น “วิญญูชนย่อมรู้ได้ด้วยตัวเอง” เลยไม่ตื่นเต้น และให้ นายเรืองไกร ไปตรวจสอบขอดูข้อมูลจาก ป.ป.ช.
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ถึงนายวิษณุ เรียกร้องให้แสดงแบบรายการเสียภาษี (ภ.ง.ด.) ปี 2548-2557 และค่าใช้จ่ายที่ส่งบุตรศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า ประวัติการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายกวิษณุ 4 ครั้ง คือ ปี 2548 , 2549 , 2550 และ ปี 2557 พบว่าตลอด 9 ปี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 87.5 ล้านบาท เฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 9.7 ล้านบาท แต่ครั้งล่าสุดที่นายวิษณุและคู่สมรสยื่นแสดงรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย คือ 1.2 ล้านบาท และ 1.8 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งไม่สอดคล้องกับรายได้เฉลี่ยที่คำนวณไว้ข้างต้น จึงสงสัยว่านายวิษณุได้เสียภาษีครบถ้วนหรือไม่
นอกจากนี้หลังนายวิษณุ พ้นตำแหน่งรองนายกฯ สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ปี 2550 มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 11 ล้านบาท และได้ส่งเสียบุตรชายเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบุตรชายนายวิษณุบอกกับตนว่าไม่สอบชิงทุนและใช้ทุนของนายวิษณุ ดังนั้นยอดรายจ่ายดังกล่าวควรถูกนำมาบวกกับยอดเสียภาษีต่อไป ดังนั้นจึงเรียกร้องให้นายวิษณุ เปิดเผยแบบแสดงรายการเสียภาษี (ภ.ง.ด.) ตลอด 9 ปี และรายละเอียดค่าใช้จ่ายส่งบุตรศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวน และเส้นทางการเงินที่ผ่านธนาคาร อย่างไรก็ตามหานายเรืองไกร ไม่เปิดเผยรายละเอียดข้อมูลดังกล่าว จะยื่นหนังสือต่อกรมสรรพากรให้ตรวจสอบการเสียภาษีของนายวิษณุต่อไป.- สำนักข่าวไทย