อธิบดีสรรพากร ยันเก็บภาษีคนไทยมีรายได้ต่างประเทศเริ่มปี 67 ย้ำไม่ซ้ำซ้อน

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-อธิบดีกรมสรรพากร เผยเตรียมจัดเก็บภาษีคนไทยมีรายได้ในต่างประเทศแล้วนำรายได้เข้าไทยเข้าไทย เริ่มปีภาษี 2567 เป็นไปตามกติกาโลก ยันไม่เก็บภาษีซ้ำซ้อน หากเสียภาษีในต่างประเทศแล้ว ไม่เรียกเก็บเพิ่มในไทย

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงประกาศของกรมสรรพากร ที่มีแผนจัดเก็บภาษีสำหรับคนไทยที่มีรายได้ในต่างประเทศและนำรายได้ดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย ต้องเสียภาษีในปีที่นำรายได้เข้ามา ว่า ตามหลักการการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรและของประเทศไทย ใช้ 2 เกณฑ์การจัดเก็บภาษี คือตามถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 180 วัน และตามหลักรับรู้รายได้ทั่วโลก ทั้งนี้ ไทยมีการใช้ พ.ร.ก.จัดเก็บข้อมูล ส่งผลให้บริบทในการจัดเก็บภาษีตามหลักการทั้งสองข้อดังกล่าวเปลี่ยนไป เนื่องจากในอดีตข้อมูลของคนไทยที่มีรายได้อยู่ต่างประเทศนั้นยากที่จะได้มาหรือจำเป็นต้องมีการร้องขอ แต่ปัจจุบันในยุคเทคโนโลยีที่ข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนบริบทในการจัดเก็บภาษี ตามพัฒนาการกติกาการเก็บภาษีโลกที่ไทยเข้าเป็นสมาชิกของ Global forum


ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการเก็บภาษีซ้ำซ้อน เนื่องจากประเทศไทยมีอนุสัญญาภาษีซ้อนกับหลายหลายประเทศ รวมทั้งประเทศคู่ค้าสำคัญ  หากเสียภาษีในต่างประเทศแล้ว ก็จะไม่มีการเก็บภาษีซ้ำซ้อนในไทยอีก สำหรับอัตราการจัดเก็บภาษีต้องไปดูคู่สัญญาภาษีซ้อนที่ทำกับแต่ละประเทศซึ่งจะมีอัตราแตกต่างกัน โดยในระยะสั้นจะมีการดำเนินการในลักษณะออกประกาศ แต่ในระยะยาวจะเป็นการออกประมวลรัษฎากรที่ชัดเจน ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดเพื่อการจัดเก็บภาษีที่ถูกต้องเป็นธรรมสำหรับคนไทยที่ไม่ว่าจะลงทุนในประเทศหรือต่างประเทศแล้วมีรายได้ในลักษณะเดียวกัน ก็จะต้องเสียภาษีคล้ายๆ กัน  โดยจะเริ่มจัดเก็บในปีภาษี 2567 และยื่นเสียภาษีในปี 2568 

อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการออกประกาศไปเมื่อ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา จะต้องมีวิธีการและหลักเกณฑ์ต่างๆ ออกเพิ่มเติมมาอีก และเตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาพูดคุยกับกรมสรรพากรในลักษณะ  Focus group ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างไร รวมทั้งสิ่งที่กังวลคืออะไร เนื่องจากแต่ละกลุ่มมีข้อกังวลแตกต่างกัน เพื่อให้การดำเนินการในช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด โดยขณะนี้ยังไม่มีการประมาณการเรื่องรายได้ เนื่องจากยังเป็นการดำเนินการเรื่องหลักการและวิธีการที่ต้องเปลี่ยนไปตามบริบทเศรษฐกิจของประเทศตามกติกาภาษีโลกที่เปลี่ยนแปลงไป


ทั้งนี้ ตามประกาศของกรมสรรพากรเมื่อวันที่ 15 ก.ย.66 มีแผนจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมสำหรับคนที่มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ในปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว เนื่องจากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในต่างประเทศ หรือเนื่องจากทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ ตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร โดยกรมสรรพากรมีคำสั่งให้บุคคลซึ่งเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยตามมาตรา 41 วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากรที่มีเงินได้พึงประเมินเนื่องจากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในต่างประเทศ หรือเนื่องจากทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ ตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากรในปีภาษีดังกล่าว และได้นำเงินได้พึงประเมินนั้นเข้าประเทศไทยในปีภาษีใดก็ตาม ให้บุคคลนั้นมีหน้าที่ต้องนำเงินได้พึงประเมินเหล่านี้มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษี ตามมาตรา 48 แห่งประมวลรัษฎากรในปีภาษีที่ได้นำเงินได้พึงประเมินนั้นเข้ามาในประเทศ 

“ความท้าทายของการจัดเก็บภาษีปีปี 2567 คือเศรษฐกิจภาพใหญ่หลังสภาพัฒน์ปรับลดจีดีพีปี 2566 เหลือ 2.5 – 3.0% จากเดิมคาด 2.7-3.7% ซึ่งยอมรับว่าจะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีบ้าง แต่กรมสรรพากร จะพยายามเพิ่มประสิทธิภาพและเทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูล (data) และ AI ไปตรวจดูความผิดปกติการเสียภาษีอย่างไม่ถูกต้อง เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” นายลวรณ กล่าว.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”