นนทบุรี 3 เม.ย. – อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเชื่อสหรัฐหามาตรการลดขาดดุลการค้าไม่กระทบส่งออกไทย ย้ำจุดยืนรัฐบาลไทยไม่แทรกแซงค่าเงิน เรียกหารือถกเอกชนเตรียมรับมือ
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีประธานาธิบดีสหรัฐพยายามหามาตรการลดการขาดดุลกับ 16 ประเทศคู่ค้า ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ว่า ยังคงต้องรอดูมาตรการจากทางสหรัฐว่าจะดำเนินการอย่างไร และได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำสหรัฐติดตามและประเมินผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สหรัฐมีสัดส่วนการส่งออกมากถึงร้อยละ 10 ของการส่งออกภาพรวม แต่การที่สหรัฐเร่งลดการขาดดุลการค้าของประเทศไม่น่าจะกระทบต่อการส่งออกภาพรวมของไทยและการส่งออกของไทยไปสหรัฐ เนื่องจากสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากไทยเป็นสินค้าที่สหรัฐผลิตเองไม่ได้ หรือผลิตได้แต่ไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ จึงเชื่อว่าหากลดการขาดดุลการค้าด้วยการกีดกันการนำเข้าสินค้าจากไทย อาจจะทำให้ต้นทุนสินค้าในสหรัฐสูงขึ้นและกระทบต่อการบริโภคของประชาชาภายในประเทศได้ ประกอบกับสินค้าที่ไทยส่งออกเป็นสินค้าที่ไม่ได้แข่งขันโดยตรงกับสหรัฐอยู่แล้ว จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีผลกระทบมาก และแนวโน้มการส่งออกไปสหรัฐปีนี้น่าจะขยายตัวดีขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร โฆษกกระทรวงพาณิช์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีการจับตาอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนถึงรายละเอียดที่สหรัฐจะดำเนินการกับประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการต่าง ๆ จะต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจ มาหารือเพื่อเตรียมการรับมือผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว โดยจุดยืนของประเทศไทยยังย้ำว่าความสัมพันธ์กับทางสหรัฐไม่ได้มีมิติเฉพาะการค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีในส่วนของการลงทุน ความมั่นคง และความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม การตัดสินใจของสหรัฐเชื่อว่าจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยประเทศไทยไม่ได้มีการใช้มาตรการใด ๆ ที่มีการแทรกแซงค่าเงิน ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจนทำให้มีการเกินดุลการค้ากับทางสหรัฐ รวมถึงการดึงการลงทุนเข้ามาในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รัฐบาลไทยให้การส่งเสริม ก็ไม่ได้ดึงนักลงทุนสหรัฐเข้ามาลงทุนเท่านั้น แต่เป็นการดึงนักลงทุนจากทุกประเทศโดยไม่เลือกปฏิบัติ โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีการประสานกับผู้แทนการค้าสหรัฐ หรือ USTR เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ สหรัฐเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย โดยปี 2559 การค้าระหว่างไทยและสหรัฐมีมูลค่า 36,551 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไทยส่งออกไปสหรัฐมูลค่า 24,494 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไทยนำเข้าจากสหรัฐ มูลค่า 12,057 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าปีที่ผ่านมากว่า 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้ดุลการค้ามาโดยตลอด
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า คงต้องตามดูว่าผลประกาศดังกล่าวจะทำให้แนวทางการทบทวนประกาศให้ไทยหลุดพ้นจากประเทศจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ต่อผลการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่จะมีการประกาศช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ยังคงอาจจะได้ดูว่าไทยจะถูกปรับสถานะดีขึ้นหรือเท่าเดิม รวมถึงแนวทางการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่ไทยได้รับมาก่อนหน้านี้จะมีการพิจารณาทบทวนให้อยู่อีกหรือไม่เช่นกัน
สำหรับเดือนมกราคม 2560 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐอยู่ที่ 3,216 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.55 โดยสหรัฐขาดดุลการค้ากับไทย 1,546 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 6.52 ส่วน ไทยส่งออกไปสหรัฐมูลค่า 2,381 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.55 โดยสินค้าสำคัญ อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยางรถยนต์ อุปกรณ์เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ สินค้าที่สหรัฐส่งออกมาไทยส่วนมากเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเดือนแรกปีนี้สหรัฐส่งออกมาไทยคิดเป็นมูลค่า 835 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5.-สำนักข่าวไทย