สุราษฎร์ธานี 2 เม.ย.- ผบ.มทบ. 45 ย้ายด่วน 2 นายทหารช่วยราชการ พร้อมตั้งชุดสอบข้อเท็จจริงกรณีญาติร้องพลทหารค่ายวิภาวดีฯ ถูกซ้อมเสียชีวิต ย้ำให้ความเป็นธรรมเต็มที่ ด้านตำรวจเผยรวบรวมหลักฐานได้มาก พร้อมเชิญสหวิชาชีพร่วมสอบ
กรณีนางเรณู หมดราคี อายุ 40 ปี แม่ของ พลทหาร ยุทธกินันท์ บุญเนียม หรือเบนซ์ อายุ 22 ปี ทหารกองประจำการ ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี กรณีลูกชายถูกทำร้ายร่างกายขณะถูกควบคุมตัวในเรือนจำ มณฑลทหารบกที่ 45 และเสียชีวิตระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา และวันนี้ (2 เม.ย.) นางเรณู ได้มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนพร้อมพยานบุคคล ซึ่งเป็นพลทหารเพื่อนของลูกชายนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้า และเชิญสหวิชาชีพ ประกอบด้วย นายทหารพระธรรมนูญ ฝ่ายปกครอง และ อัยการ เข้าร่วมการสอบสวนปากคำพยานด้วย
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า เพื่อความโปร่งใส และเป็นธรรมกับทุก ฝ่าย ได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งเชิญสหวิชาชีพ ที่เกี่ยวข้องรับฟังการสอบสวนพยาน ในส่วนของพยานที่เป็นพลทหารด้วยกัน ขณะนี้ทราบว่ามีความหวาดกลัว จึงให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล และคุ้มครอง ตาม พรบ.คุ้มครองพยาน ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่า การสอบสวนคดี จะทำอย่างตรงไปตรงมาและได้รับความเป็นธรรมทุกฝ่ายอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้การรวบรวมพยานหลักฐานคืบหน้าไปมากแล้ว พร้อมทั้งสั่งให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายบริเวณแยกแสงเพชร เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ตามที่แม่ของผู้เสียชีวิตได้ลงบันทึกประจำวันไว้เมือวันที่ 31 มี.ค. เบื้องต้นแม่ของผู้เสียชีวิตได้แจ้งพนักงานสอบสวนไว้ว่า รับฟังมาจากบุคคลบางกลุ่ม อ้างว่าบุตรชายถูกทำร้ายร่างกายที่บริเวณดังกล่่าว และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ด้าน พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผบ.มณฑลทหารบกที่ 45 กล่าวว่า มีคำสั่งให้นายทหาร 2 นาย ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ มาช่วยราชการที่ มทบ.45 เพื่อให้การสอบสวนของฝ่ายตำรวจ และฝ่ายทหารเป็นไปอย่างเรียบร้อย และไม่เป็นการไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน วันเดียวกันได้มีคำสั่งแต่งตั้ง พ.อ.สมศักดิ์ บุญชรัตน์ หัวหน้าฝ่ายสรรพกำลัง มทบ.45 เป็นหัวหน้ากรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง และสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยให้รายงานผลปฎิบัติทันที
พล.ต.วิชัย กล่าวด้วยว่า ตนได้กำชับไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในการสอบสวนทางคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีการร้องขอเพื่อสอบปากคำบุคคล รวมถึงพยาน ทาง มทบ.ที่ 45 พร้อมให้ความร่วมมือ และเปิดโอกาสให้มีการสอบสวนอย่างเต็มที ยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือกันอย่างเด็ดขาด คนที่ทำผิดจะต้องได้รับโทษ
“เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ปัญหาคือ คู่กรณี ไม่สามารถพูดได้แล้ว ดังนั้นจึงต้องเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา ใครก็ตามจะมากล่าวอ้างว่าเขาทำผิดกฎระเบียบแล้วต้องรับผลกระทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเราไม่มีหน้าที่พิพากษาเขา” ผบ.มทบ.ที่ 45 กล่าว.-สำนักข่าวไทย
