ยธ.มั่นใจหลักฐานใหม่ช่วยสาวแพะสปาภูเก็ต

กระทรวงยุติธรรม 27 มี.ค.-สาวแพะสปาภูเก็ต มอบหลักฐานใหม่ให้ พนักงานสอบสวนกระทรวงยุติธรรม และเตรียมเข้าเครื่องจับเท็จ ยืนยันความบริสุทธิ์ ขณะที่รองปลัดฯมั่นใจหลักฐานสู้คดีชั้นอุทธรณ์


ช่วงบ่ายวันนี้(27 มี.ค.)  น.ส.ปวิตรา กองกำพล หรือ พลอย อายุ 32 ปี เข้าพบพนักกงานสอบสวนดีเอสไอ  ให้ปากคำพร้อมนำพยานหลักฐานสำคัญหลายรายการมายื่นให้เพิ่มเติมเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์   หลักถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดสำราญ จ.ตรัง แจ้งข้อกล่าวหามอมยาชิงทรัพย์ผู้เสียหายเมื่อปี 2554 โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก 10 ปี เมื่อปลายปี 2559 ต่อมาได้ใช้หลักทรัพย์ยื่นประกันตัวจำนวน 200,000 บาทในชั้นศาล 

น.ส.ปวิตรา  ยืนยันว่า ที่ผ่านมายืนยันโดยตลอดว่าไม่เคยเดินทางไปจังหวัดตรัง ไม่มีญาติหรือเพื่อนอยู่ในพื้นที่ตรัง  ตนเองเป็นราชบุรีและมาทำงานที่ภูเก็ตตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554   โดยในวันเกิดเหตุตนเปิดร้านสปา อยู่ที่ จ.ภูเก็ต ตั้งแต่เวลา 9.00-23.00 น.  จากนั้นได้รับโทรศัพท์จากตำรวจว่าตนเอง มีหมายจับที่ สภ.หาดสำราญ แต่ได้ปฎิเสธไป   ทางผู้เสียหายได้แจ้งข้อมูลแก่ตำรวจเพียงว่า คนร้ายชื่อ พลอย จากนั้นในการแจ้งข้อกล่าวหาทางตำรวจได้นำรูปจากทะเบียนราษฎร์ ให้ผู้เสียหายชี้ตัวน.ส.พลอย   ซึ่งยอมรับว่ารูปที่ตำรวจนำมาแสดงเป็นรูปตนเองจริง   และตั้งแต่เกิดเหตุไม่เคยพบผู้ตัวผู้เสียหายเลย โดยเจอกันครั้งเดียวและก็เป็นการพบเห็นผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ตอนชี้ตัว  แม้จะพยายามติดต่อก็ได้รับการปฎิเสธมาโดยตลอด จนล่าสุดทราบว่าผู้เสียหายได้ย้ายที่อยู่จาก จ.ตรัง มาอยู่ที่ จ.นครสวรรค์แล้ว 


น.ส.ปวิตรา  กล่าวด้วยว่า  ในวันนี้ ได้นำหลักฐานใหม่คือภาพถ่ายในมือถือแบล็คเบอรี่ของเพื่อนตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2554 ซึ่งเป็นภาพของตนเองที่ถ่ายไว้ก่อนวันเกิดเหตุ 3 วัน มายืนยันว่าภาพหญิงสาวที่ตำรวจได้จากกล้องวงจรปิดเป็นคนละคนกับตน เพราะในรูปวงจรปิดเป็นภาพหญิงสาวที่มีรูปผอมเพรียว แต่ตนไม่เคยมีน้ำหนักต่ำกว่า 70 กิโลกรัม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ 3 วันจะลดน้ำหนักได้เป็นสิบกิโลกรัม และจากการให้สัมภาษณ์ของผู้เสียหายผ่านช่อง 9 สำนักข่าวไทย ระบุว่า คนร้าย ใส่เหล็กจัดฟัน และไม่ได้มีรอยสักที่ข้อมือต่างจากตนซึ่งสักข้อมือมาตั้งแต่อายุ 18 ปี  และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้พาตนไปพิมพ์ฟัน และเอ็กซ์เรย์เพื่อตรวจดูว่ามีการถอนเพื่อจัดหรือไม่ แพทย์ระบุว่าฟันเก มีเขี้ยว ไม่เคยผ่านการจัดฟันแต่อย่างใด  สำหรับขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะพาตนไปเข้าเครื่องจับเท็จ ที่ จ.ภูเก็ต ในวันพฤหัสบดีนี้

“ก่อนหน้านี้หมดหวังเพราะไม่คิดว่าจะมีหนทางชนะ หรือต่อสู้คดี จนกระทั่งตัดสินใจไปร้องเรียนพี่นักข่าวที่ภูเก็ต และพี่นักข่าวช่อง 9 พามาร้องที่หน่วยงานยุติธรรม ทำให้ตอนนี้เริ่มมีความหวังมากขึ้น ว่าจะสามารถต่อสู้เพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้กับตัวเองและครอบครัวได้”น.ส ปวิตรา กล่าว


ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการให้ช่วยเหลือด้านคดีกับน.ส.ปวิตราว่า จากการตรวจสอบหลักฐานซึ่งเป็นภาพวงจรปิดในห้างสรรพสินค้าที่ผู้เสียหายอ้างว่าหญิงสาวในภาพเป็นคนร้ายนั้น พบว่าบุคคลในภาพวงจรปิดรูปร่างดี ต่างจาก น.ส.ปวิตราที่มีน้ำหนักถึง 70 กว่ากิโลกรัม ประกอบกับข้อมือของหญิงสาวในภาพวงจรปิดไม่มีรอยสักเหมือนน.ส.ปวิตรา ที่สำคัญน.ส.ปวิตราชอบถ่ายภาพโชว์รอยสักลงในเฟสบุ๊ค รวมทั้งน.ส.ปวิตรายืนยันว่า ไม่เคยไปจ.ตรังและวันเกิดเหตุอยู่ที่ร้านสปาในจ.ภูเก็ต ซึ่งพยานได้ให้การกับศาลไปแล้ว แต่การต่อสู้ในชั้นต้นเป็นการอ้างถึงถิ่นที่อยู่ขณะเกิดเหตุ ซึ่งการจะอุทธรณ์คดีต้องใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยประเด็นสำคัญคือผู้เสียหายชี้ตัวคนร้ายผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ซึ่งอาจจะไม่มีความละเอียดพอ 

นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังให้การว่าคนร้ายใส่เหล็กดัดฟัน แต่จากการพิมพ์ฟันของ น.ส.ปวิตาพร้อมทั้งสอบถามจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ได้รับการยืนยันว่าน.ส.ปวิตาไม่เคยจัดฟันมาก่อน

พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่จ.ภูเก็ตพบว่ามีคดีในลักษณะเดียวกันอีกหลายคดี โดยเป็นการมอมยาในจ.ตรัง และเมื่อออกหมายจับผู้ต้องหาอยู่ในจ.ภูเก็ต โดยพบว่ารายหนึ่งเป็นแม่ค้า จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการเดียวกัน ขั้นตอนหลังจากนี้จะนำตัวน.ส.ปวิตาไปเข้าเครื่องจับเท็จ เมื่อเสร็จกระบวนการแล้วจะสรุปผลดำเนินคดีและเข้าร่วมประชุมกับตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งในคดีนี้จะเป็นการยื่นหลักฐานใหม่ในชั้นอุทธรณ์ ไม่ใช่เป็นการรื้อฟื้นคดี เบื้องต้นทนายของน.ส.ปวิตายื่นอุทธรณ์ไปแล้ว แต่กระทรวงยุติธรรมก็สามารถยื่นอุทธรณ์โดยเสนอหลักฐานเพิ่มเติมได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]