ดีเอสไอ 23 มี.ค.- ดีเอสไอรับคดีร้านภูเรือคาเฟ่เป็นคดีพิเศษ หลังพบเชื่อมโยงขบวนการส่วยคาราโอเกะค้ากาม
พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาการผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม 1 ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ดีเอสไอรับคดีร้านภูเรือคาเฟ่ จ.เลย ที่นำหญิงสาวชาวลาว อายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณีโดยเปิดร้านคาราโอเกะบังหน้า เป็นคดีพิเศษที่ 29/2560 ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษมาตรา 21 วรรคหนึ่ง วงเล็บหนึ่ง เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่าคดีของร้านภูเรือคาเฟ่ มีความซับซ้อน เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และเจ้าหน้าที่รัฐ
โดยพบบัญชีรายจ่าย สลิปการโอนเงินและข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่างเจ้าของร้านกับเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงพบรายชื่อของตำรวจ 4 นาย ตรงกับบัญชีส่วยของร้านคาราโอเกะที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีในจังหวัดหนองคายที่เคยเข้าจับกุมไปแล้ว เป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 นาย ตำรวจในท้องที่ 1 นาย และตำรวจสืบสวนภูธรภาค 4 อีก 1 นาย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว
ส่วนทางดีเอสไอ ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังสถานีตำรวจภูธรภูเรือเพื่อรับมอบสำนวนคดีของร้านภูเรือคาเฟ่ และขอย้ายตัวผู้ต้องหา คือ นางถาวร ศรีพรม เจ้าของร้าน และนางจง โสมาศรี จากเรือนจำจังหวัดเลย มาฝากขัง ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ พร้อมทั้งทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดขอให้ส่งพนักงานอัยการมาร่วมสอบสวนในคดีนี้ ซึ่งหากพบผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมก็จะต้องรายงานต่อคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรการทางการบริหารเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ควบคู่ไปด้วย.-สำนักข่าวไทย