วิษณุ ระบุยุทธศาสตร์ชาติแก้ไขได้

กรุงเทพฯ 22 มี.ค.- รองนายกรัฐมนตรี ย้ำ ยุทธศาสตร์ชาติกำหนด 20 ปี เพื่อให้ประเทศมีเป้าหมาย ไม่ได้ให้นายกรัฐมนตรีอยู่ยาว ระบุ หากรัฐบาลใหม่เข้ามา แก้ไขยุทธศาสตร์ชาติได้ 


สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานเทศบาลเมืองมหาสารคามและมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดโครงการสัมมนาเชิงวิชาการ สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย เรื่อง ยุทธศาสตร์และทิศทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่น ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น  

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง การปฏิรูปในความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อกฎหมายที่จะต้องทำภายหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ว่า รัฐบาลมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน แต่ก็มีคำถามว่า บริหารราชการแผ่นดินนั้น หมายความว่าอย่างไร ซึ่งเกิดมาจากรัฐธรรมนูญทุกฉบับไม่ได้กำหนดความหมายของคำว่าบริหารราชการแผ่นดินอย่างชัดเจน ทำให้เกิดคดีความต่าง ๆ มากมายที่ฟ้องร้องว่ารัฐบาลไม่บริหารราชการแผ่นดิน 


รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อ 70 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจไทยตกต่ำ จึงได้ตั้งองค์การสรรพาหาร หรือ องค์การที่ค้าขายอาหาร เป็นองค์การรัฐวิสาหกิจ ที่ใช้งบประมาณแผ่นดินซื้อสินค้าของประชาชนในราคาที่แพง แล้วนำมาจำหน่ายต่อในราคาที่ถูก ทำให้ประชาชนมีเงินเพียงพอที่จะซื้อ และพ่อค้าแม่ค้าก็จำหน่ายสินค้าได้ เศรษฐกิจก็ดีขึ้น ต่อมามีการยึดอำนาจ รัฐบาลชุดใหม่ก็ฟ้องศาลว่า รัฐบาลเดิมไม่มีหน้าที่ดำเนินการเช่นนั้น เพราะไม่ใช่หน้าที่การบริหารราชการแผ่นดิน แต่ไปค้าขายแข่งกับราษฎร และขอให้รัฐบาลเก่าต้องชดใช้เงินคืนทั้งหมด 

นายวิษณุ กล่าวว่า แต่ท้ายที่สุด ศาลฎีกาตัดสินว่า อะไรที่เป็นการออกกฎหมาย เป็นหน้าที่ของนิติบัญญัติ อะไรที่เป็นการตัดสินคดีความเป็นอำนาจของฝ่ายตุลาการ รัฐบาลทำไม่ได้ แต่อะไรที่ไม่ใช่เรื่องการออกกฎหมายและตัดสินคดีความ ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินทั้งหมด ดังนั้น การตั้งองค์การสรรพาหารไม่ใช่หน้าที่ของนิติบัญญัติและตุลาการ  รัฐบาลจึงไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลในอดีต จึงมีหน้าที่เพียงบริหารราชการแผ่นดินเพียงอย่างเดียว

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่รัฐธรรมนูญใหม่เขียนว่า รัฐบาลต่อจากนี้ ไม่ได้มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มี 3 ภารกิจเพิ่มขึ้นมาที่รัฐบาลต้องทำ ได้แก่ การปฏิรูปทุกด้าน ทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง  เพื่อแบ่งเบาภารกิจของรัฐบาลในการการขับเคลื่อนภารกิจที่เพิ่มมา 3 ประการ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) ขึ้นมาเพื่อช่วยขับเคลื่อน 


นายวิษณุ กล่าวว่า ปัญหาการทำงานของรัฐบาลมีอยู่ 5 ประการ คือ TRUMP ประกอบด้วย เทคโนโลยี กฎระเบียบ ความเข้าใจของประชาชน เงินงบประมาณ และบุคลากร หากขาด 5 ประการนี้ จะไม่สามารถบริหารประเทศได้ จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่มีคณะกรรมการ ป.ย.ป. ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการบริหารราชการในเชิงยุทธศาสตร์ ที่จะเน้นในเรื่องการตัดสินใจเร็ว คณะกรรมการเตรียมการด้านการปฏิรูป มีหน้าที่วางแผนให้แต่ละหน่วยงานไปปฏิรูป คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติทำให้ประเทศมีเป้าหมาย แต่ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีจะอยู่ยาวถึง 20 ปี และคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งขอให้คิดวิธีอื่นก่อน แต่ขออย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องการอภัยโทษและนิรโทษกรรม เพราะเมื่อพูดแล้วจะวงแตกทุกครั้ง 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้ ในส่วนที่เกี่ยวกับคณะกรรมการ ป.ย.ป.ก็ยังมีอยู่ แต่เตรียมส่งต่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำงานต่อ โดยสิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้คือ การส่ง พ.ร.บ.แผนและวิธีการปฏิรูปประเทศ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดว่าต้องปฏิรูปอย่างน้อย 7 ด้าน ได้แก่ การเมือง ระเบียบราชการ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การศึกษา เศรษฐกิจ และด้านอื่น ๆ เช่น ระบบการสาธารณสุข การกำจัดขยะมูลฝอย เป็นต้น

นายวิษณุ กล่าวว่า  พ.ร.บ.แผนและวิธีการปฏิรูปประเทศต้องพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 4 เดือนนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จากนั้น สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จะสิ้นสุดการทำหน้าที่ทันที โดยคณะกรรมการปฏิรูปที่จะมีขึ้นหลังจากนั้นจะมีอย่างน้อย 7 ชุด ชุดละไม่เกิน 15 คน แต่หากรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาแล้วไม่ชอบการปฏิรูปตามแนวทางนี้ สามารถเปลี่ยนตัวกรรมการและเปลี่ยนแผนการปฏิรูปใหม่ได้ 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่ในระหว่างที่ยังไม่เปลี่ยนแผน จะยังไม่สามารถใช้งบประมาณในการปฏิรูปได้ เพราะสำนักงบประมาณจะจ่ายเงินตามแผนการปฏิรูปเท่านั้น ส่วนยุทธศาสตร์ชาติก็เช่นกัน หากรัฐบาลใหม่เข้ามา อยากเพิ่มหรือแก้ไขเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติก็สามารถทำได้ แต่ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ส่วนตัวยังตอบไม่ได้ว่า จะมีการเลือกตั้งเมื่อใด ต้องรอให้ กรธ.ยกร่างกฎหมายลูกให้เสร็จก่อน คาดว่าไม่เกิน 8 เดือน จากนั้น เป็นขั้นตอนของ สนช.ที่ใช้เวลาพิจารณาอีก 2 เดือน  ซึ่งต้องมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]