สถาบันปรีดี พนมยงค์ 11 มี.ค.- บุตรสาวทนายสมชาย นีละไพจิตร ผิดหวัง สนช.ตีกลับร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย วอนสังคมไทยรับรองสิทธิ์ทุกคนในกระบวนการยุติธรรม
น.ส.ประทับจิต นีละไพจิตร อาจารย์ประจำสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะบุตรสาวของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2547 เปิดเผยว่า หลังจากที่นายสมชายหายตัวไป ครอบครัวพยายามต่อสู้ตลอด และหลังจากศาลฎีกาตัดสินยกฟ้องคดีนี้ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2558 ครอบครัวก็พยายามกลับไปสู่จุดเริ่มต้น ด้วยการผลักดันและรณรงค์ ให้มีกฎหมายที่ให้การบังคับบุคคลสูญหายเป็นความผิดทางอาญา
น.ส.ประทับจิต กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีมติเห็นชอบอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยการถูกบังคับ เพราะจะทำให้ประเทศไทยมีมาตรฐานระดับนานาชาติ เพราะไทยต้องส่งรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับผู้สูญหายให้ทราบตลอด แต่ส่วนตัวผิดหวังที่ สนช. ประกาศว่า จะไม่พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย เนื่องจากกฎหมายยังไม่สมบูรณ์ และส่งกลับมาให้กระทรวงยุติธรรมปรับปรุงแก้ไข
“ยอมรับว่า รู้สึกเสียดาย แม้กฎหมายดังกล่าวจะไม่ใช่ร่างที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นร่างกฎหมายที่ครอบครัวนีละไพจิตร และครอบครอบผู้สูญหายอื่นๆ ได้มีส่วนร่วมในการสะท้อนความต้องการ และเป็นการทำงานร่วมกันของภาครัฐ ภาคประชาสังคมและครอบครัวผู้เสียหาย” น.ส.ประทับจิต กล่าว
น.ส.ประทับจิต กบ่าวว่า ช่วงนี้ ถือเป็นช่องว่างครั้งสำคัญของประเทศไทย ที่มีการดำเนินการโดยใช้คำสั่งของ คสช.ในการจับกุม โดยไม่ผ่านกระบวนการศาลพลเรือน ซึ่งถือเป็นปัญหาที่นายสมชายเคยสะท้อนมาตลอด ดังนั้น หากสังคมไทยเห็นคุณค่าการทำงานของนายสมชาย ก็ขอให้มีการรองรับสิทธิ์ของทุกคนในกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ส่วนตัวไม่หวังการทำงานของ คสช. แต่หวังกับสังคมไทยมากกว่า .- สำนักข่าวไทย