ภรรยาทนายสมชายจี้รัฐบาลเร่งออก กม.ป้องกันการบังคับบุคคลสูญหาย

11-3-2560 12-34-21สถาบันปรีดี พนมยงค์ 11 มี.ค.- ครอบครัวทนายสมชาย พีระไพจิตร จัดกิจกรรมครบรอบ 13 ปีของการหายตัวไปของทนายสมชาย  ขณะที่ ภรรยา เผย ครอบครัวยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ หลังล่าสุด  DSI แจ้งงดการสอบสวน เพราะไม่พบศพ  ชี้ รัฐบาลควรสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย เพื่อบังคับใช้กฎหมายเอาคนผิดมาลงโทษ  และไม่ให้การบังคับสูญหายเกิดขึ้นอีก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 มี.ค.)  มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ และครอบครัวของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน  ได้กิจกรรมรณรงค์เพื่อรำลึกถึง 13 ปี แห่งการสูญหายไปของทนายสมชาย  ที่สถาบันปรีดี พนงยงค์   มีการจัดนิทรรศการมุมทำงานของนายสมชาย  นิทรรศการประวัติและการต่อสู้ของนักสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย  และปาฐกถาพิเศษเรื่อง งานคือชีวิตของสมชาย นีละไพจิตร และชีวิตคืองานของครอบครัวนีละไพจิตร โดยนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)  ในฐานะภรรยาของนายสมชาย

11-3-2560 12-03-30ทั้งนี้ นางอังคณา  เปิดเผยถึงการทำงานของนายสมชายว่า นายสมชายเกิดและเติบโตมาในครอบครัวของชาวนา จึงมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือคนยากจน  โดยจะแบ่งเงินที่หาได้ เพื่อเป็นทุนในการช่วยเหลือคดีของผู้ยากไร้  ก่อนที่นายสมชายจะหายตัวไป ลูกความของนายสมชาย 5 คน ที่ถูกจับกุมที่จังหวัดนราธิวาส ได้ร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมอย่างทรมาน ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัว  เมื่อนายสมชายไปเยี่ยมลูกความ ก็พบว่ามีบาดแผลจริง จึงทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง


นางอังคณา กล่าวว่า เพียง 1 วันที่ได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ก็ถูกอุ้มหายตัวไปทันที  ซึ่งครอบครัวใช้เวลา 12 ปี ต่อสู้คดีจนถึงศาลฎีกา และตัดสินว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความผิด เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ที่สำคัญยังตัดสิทธิ์ครอบครัวที่จะเป็นโจทก์ร่วมในคดี ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า ในคดีอุ้มหาย  ญาติไม่สามารถเป็นผู้เสียหายแทนได้

“เดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)  มีหนังสือส่งมาถึงครอบครัวว่า  DSI งดการสอบสวน เนื่องจากไม่พบศพของนายสมชาย ครอบครัวจึงยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหลังจากนี้  เพราะประเทศไทยยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการบังคับบุคคลให้สูญหาย” นางอังคณา กล่าว

นางอังคณา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกฤษฎีกา และนำเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว แต่ สนช.มีความเห็นไม่รับร่างกฎหมายดังกล่าว โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง  ขณะที่ กระทรวงยุติธรรมให้ข้อมูลว่า ได้นำร่างกฎหมายดังกล่าวกลับมารับฟังความเห็นอย่างกว้างขวาง  ทั้งที่ความจริงแล้ว ร่างกฎหมายฉบับที่ส่งไปนั้น ได้ใช้เวลาจัดทำร่าง พร้อมรับฟังความเห็นอย่างกว้างขวางมาแล้วหลายปี จึงตั้งข้อสังเกตว่า หากเกิดกรณีอุ้มหายไป จะต้องดำเนินการอย่างไร


“ดิฉันอยากฟังจากรัฐบาลด้วยว่า จะต้องทำอย่างไร เพราะมีหลายกรณีที่บุคคลสูญหาย แต่ตำรวจระบุว่า เป็นคดีที่ไม่มีหลักฐาน  เนื่องจากไม่พบศพ ดังนั้น หลังจากนี้ หากใครถูกอุ้มหาย ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้” นางอังคณา กล่าว

นางอังคณา กล่าวว่า   อย่างไรก็ตาม  เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) สนช.มีมติให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยการถูกบังคับ ดังนั้น ร่างกฎหมายดังกล่าวมีความจำเป็นที่จะต้องสอดคล้องกับอนุสัญญา  หากปรับปรุงร่างกฎหมายจนไม่สอดคล้องกับอนุสัญญา ก็จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และไม่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้

“ดิฉันพยายามผลักดันกฎหมายนี้มาตลอด เนื่องจากอยากบอกกับสังคมไทยว่า ปัญหาของการบังคับสูญหายอยู่ที่ ประเทศไทยไม่มีกฎหมายคุ้มครอง และพบว่าเจ้าหน้าที่บางคนก็ใช้วิธีการนี้  ทำให้ตัวเองไม่ต้องรับโทษ  เนื่องจากไม่พบศพ ก็ไม่มีความผิด ดังนั้น ตราบใดที่รัฐบาลไทยหรือบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ยังไม่เห็นความสำคัญของกฎหมายนี้ ก็จะเป็นการซ้ำเติมครอบครัวผู้สูญเสีย และเป็นวัฒนธรรมที่ทำให้ผู้กระทำผิดลอยนวล รวมทั้ง ทำให้การบังคับสูญหายเกิดขึ้นอีก” นางอังคณา กล่าว       .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025

ทำเนียบ 17 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา Miss World 2025″ พร้อมสานต่อโครงการฯ ให้กำลังใจนายกฯ Women to Women ขณะข้าราชการ-สื่อ แห่ถ่ายรูปคึกคัก ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (17 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี หรือ โอปอล Miss World 2025 คนที่ 72 หลังคว้ามงกุฎฟ้า มงแรกให้กับประเทศไทย พร้อมด้วยนางจูเลีย มอลีย์ ประธานองค์กรมิสเวิลด์ พร้อมด้วย แม่ปุ้ย นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล โดยมีบรรดารัฐมนตรีร่วมต้อนรับและถ่ายรูปแสดงความยินดีด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีสนับสนุนโครงการ Opal for her […]

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Cambodia's envoy in front of ICJ

กัมพูชายื่นหนังสือต่อศาลโลกแล้ว

พนมเปญ 17 มิ.ย.- นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยว่า กัมพูชาได้ยื่นจดหมายถึงมือเจ้าหน้าที่ทะเบียนศาลโลกแล้ว ขณะที่นายฮุน เซน เรียกร้องนักศึกษากัมพูชากลับประเทศ หากถูกตัดทุนหรือเลือกปฏิบัติในไทย นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชาได้รายงานว่า เมื่อวานนี้เวลา 11.30 น. ตามเวลากรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ช้ากว่ากัมพูชา 5 ชั่วโมง นางสุเร็ง ธีตา เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ยื่นจดหมายอย่างเป็นทางการของกัมพูชาถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาชายแดนในพื้นที่พิพาท 4 จุด ประกอบด้วย สามเหลี่ยมมรกต, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ต่อนายฟิลิป โกติเยร์ เจ้าหน้าที่ทะเบียนศาลโลก เรียบร้อยแล้ว นายฮุน มาเนตโพสต์ว่า กัมพูชาจะยึดมั่นในการใช้กลไกทางกฎหมายผ่านไอซีเจ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทย ในพื้นที่พิพาทเหล่านี้ รัฐบาลกัมพูชาจะดำเนินการเช่นนี้ต่อไปด้วยความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบสูงในการปกป้องอธิปไตยของแผ่นดิน รวมทั้งผลประโยชน์ของชาติและชาวกัมพูชา ด้านสำนักข่าวเฟรชนิวส์ (Fresh News) ของกัมพูชารายงานว่า […]

อุตุฯ เผยภาคเหนือ-ภาคใต้ ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย