ภรรยาทนายสมชายจี้รัฐบาลเร่งออก กม.ป้องกันการบังคับบุคคลสูญหาย

11-3-2560 12-34-21สถาบันปรีดี พนมยงค์ 11 มี.ค.- ครอบครัวทนายสมชาย พีระไพจิตร จัดกิจกรรมครบรอบ 13 ปีของการหายตัวไปของทนายสมชาย  ขณะที่ ภรรยา เผย ครอบครัวยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ หลังล่าสุด  DSI แจ้งงดการสอบสวน เพราะไม่พบศพ  ชี้ รัฐบาลควรสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย เพื่อบังคับใช้กฎหมายเอาคนผิดมาลงโทษ  และไม่ให้การบังคับสูญหายเกิดขึ้นอีก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 มี.ค.)  มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ และครอบครัวของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน  ได้กิจกรรมรณรงค์เพื่อรำลึกถึง 13 ปี แห่งการสูญหายไปของทนายสมชาย  ที่สถาบันปรีดี พนงยงค์   มีการจัดนิทรรศการมุมทำงานของนายสมชาย  นิทรรศการประวัติและการต่อสู้ของนักสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย  และปาฐกถาพิเศษเรื่อง งานคือชีวิตของสมชาย นีละไพจิตร และชีวิตคืองานของครอบครัวนีละไพจิตร โดยนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)  ในฐานะภรรยาของนายสมชาย

11-3-2560 12-03-30ทั้งนี้ นางอังคณา  เปิดเผยถึงการทำงานของนายสมชายว่า นายสมชายเกิดและเติบโตมาในครอบครัวของชาวนา จึงมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือคนยากจน  โดยจะแบ่งเงินที่หาได้ เพื่อเป็นทุนในการช่วยเหลือคดีของผู้ยากไร้  ก่อนที่นายสมชายจะหายตัวไป ลูกความของนายสมชาย 5 คน ที่ถูกจับกุมที่จังหวัดนราธิวาส ได้ร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมอย่างทรมาน ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัว  เมื่อนายสมชายไปเยี่ยมลูกความ ก็พบว่ามีบาดแผลจริง จึงทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง


นางอังคณา กล่าวว่า เพียง 1 วันที่ได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ก็ถูกอุ้มหายตัวไปทันที  ซึ่งครอบครัวใช้เวลา 12 ปี ต่อสู้คดีจนถึงศาลฎีกา และตัดสินว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความผิด เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ที่สำคัญยังตัดสิทธิ์ครอบครัวที่จะเป็นโจทก์ร่วมในคดี ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า ในคดีอุ้มหาย  ญาติไม่สามารถเป็นผู้เสียหายแทนได้

“เดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)  มีหนังสือส่งมาถึงครอบครัวว่า  DSI งดการสอบสวน เนื่องจากไม่พบศพของนายสมชาย ครอบครัวจึงยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหลังจากนี้  เพราะประเทศไทยยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการบังคับบุคคลให้สูญหาย” นางอังคณา กล่าว

นางอังคณา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกฤษฎีกา และนำเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว แต่ สนช.มีความเห็นไม่รับร่างกฎหมายดังกล่าว โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง  ขณะที่ กระทรวงยุติธรรมให้ข้อมูลว่า ได้นำร่างกฎหมายดังกล่าวกลับมารับฟังความเห็นอย่างกว้างขวาง  ทั้งที่ความจริงแล้ว ร่างกฎหมายฉบับที่ส่งไปนั้น ได้ใช้เวลาจัดทำร่าง พร้อมรับฟังความเห็นอย่างกว้างขวางมาแล้วหลายปี จึงตั้งข้อสังเกตว่า หากเกิดกรณีอุ้มหายไป จะต้องดำเนินการอย่างไร


“ดิฉันอยากฟังจากรัฐบาลด้วยว่า จะต้องทำอย่างไร เพราะมีหลายกรณีที่บุคคลสูญหาย แต่ตำรวจระบุว่า เป็นคดีที่ไม่มีหลักฐาน  เนื่องจากไม่พบศพ ดังนั้น หลังจากนี้ หากใครถูกอุ้มหาย ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้” นางอังคณา กล่าว

นางอังคณา กล่าวว่า   อย่างไรก็ตาม  เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) สนช.มีมติให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยการถูกบังคับ ดังนั้น ร่างกฎหมายดังกล่าวมีความจำเป็นที่จะต้องสอดคล้องกับอนุสัญญา  หากปรับปรุงร่างกฎหมายจนไม่สอดคล้องกับอนุสัญญา ก็จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และไม่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้

“ดิฉันพยายามผลักดันกฎหมายนี้มาตลอด เนื่องจากอยากบอกกับสังคมไทยว่า ปัญหาของการบังคับสูญหายอยู่ที่ ประเทศไทยไม่มีกฎหมายคุ้มครอง และพบว่าเจ้าหน้าที่บางคนก็ใช้วิธีการนี้  ทำให้ตัวเองไม่ต้องรับโทษ  เนื่องจากไม่พบศพ ก็ไม่มีความผิด ดังนั้น ตราบใดที่รัฐบาลไทยหรือบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ยังไม่เห็นความสำคัญของกฎหมายนี้ ก็จะเป็นการซ้ำเติมครอบครัวผู้สูญเสีย และเป็นวัฒนธรรมที่ทำให้ผู้กระทำผิดลอยนวล รวมทั้ง ทำให้การบังคับสูญหายเกิดขึ้นอีก” นางอังคณา กล่าว       .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล

บอสแซมมิน

ยังไม่จบ! “แซม-มิน” ลุ้น DSI เห็นแย้งอัยการหรือไม่

แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม-บอสมิน” แต่ดีเอสไอย้ำชัด คดียังไม่จบ มีเวลาอีก 30 วัน พิจารณาสำนวนที่ถูกตีกลับว่าจะเห็นแย้งคำสั่งหรือไม่ ส่วนประเด็น “บอสมิน” ไม่ถูกตัดผมขณะถูกคุมขัง ราชทัณฑ์มีคำตอบให้แล้ว