กรุงเทพฯ 12 พ.ย.-ผลสำรวจประชาชนชอบเพลงพระราชนิพนธ์เพลงสายฝนมากที่สุด สิ่งที่ได้จากการฟังเพลงพระราชนิพนธ์ให้ความสุขเพลิดเพลิน รู้สึกใกล้ชิดสถาบันพระมหากษัตริย์และทราบถึงพระปรีชาสามารถด้านดนตรี
สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (ระดับอุดมศึกษา) แถลงผลสำรวจความรับรู้ของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเกี่ยวกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยสำรวจระหว่างวันที่ 6-11 พ.ย.ที่ผ่านมา จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,189 คน เป็นเพศหญิงร้อยละ 50.63 และเพศชายร้อยละ 49.37 อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
ผลสำรวจพบว่าเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่กลุ่มตัวอย่างชอบมากที่สุด 5 อันดับได้แก่ สายฝน ร้อยละ 86.54 ชะตาชีวิต ร้อยละ 84.95 ใกล้รุ่ง ร้อยละ 82.51 ยามเย็น ร้อยละ 80.15 และแสงเทียน ร้อยละ 76.87
สิ่งที่กลุ่มตัวอย่างได้รับจากการฟังเพลงพระราชนิพนธ์ มากที่สุด 3 อันดับคือ ได้ความสุข ความเพลิดเพลินคิดเป็นร้อยละ 84.52 ได้รู้สึกใกล้ชิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์คิดเป็นร้อยละ 82.42 ได้ทราบถึงพระปรีชาสามารถด้านดนตรีคิดเป็นร้อยละ 79.65
ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 79.48 มีความเห็นว่าหากสถานศึกษาจัดให้เด็กนักเรียนได้ขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์เป็นประจำทุกสัปดาห์จะมีส่วนช่วยให้เด็กเยาวชนรุ่นหลังให้ความสนใจศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมากขึ้นได้ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 76.87 เห็นว่าเพลงพระราชนิพนธ์มีส่วนช่วยให้ผู้คนในชาติเกิดความรักสามัคคีกันได้ และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 86.04 เห็นด้วยหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดทำเพลงพระราชนิพนธ์เป็นแถบบันทึกเสียงเพื่อแจกให้กับทุกครัวเรือนได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก
นายศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโสฯ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระปรีชาสามารถด้านดนตรี ทั้งด้านการทรงเครื่องดนตรี การพระราชนิพนธ์เนื้อเพลงและทำนอง รวมถึงการเรียบเรียงเสียงประสาน เป็นที่ประจักษ์แก่ทั้งพสกนิกรไทยโดยทั่วไป ตลอดจนชาวต่างชาติ พระองค์ทรงมีความสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับดนตรีมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์และทรงเริ่มเรียนดนตรี เมื่อมีพระชนมายุ 13 พรรษา ขณะประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับครูชาว อัลซาส ชื่อนายเวย์เบรชท์ โดยทรงเรียนการเป่าแซกโซโฟน วิชาการดนตรี การเขียนโน้ตและการบรรเลงดนตรีสากลต่าง ๆ จนทรงมีความเชี่ยวชาญ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเริ่มพระราชนิพนธ์เพลงเมื่อมีพระชนมพรรษาได้ 18 พรรษาในปี 2489 เพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกคือเพลงแสงเทียน เพลงพระราชนิพนธ์เพลงที่ 2 คือเพลงใกล้รุ่ง แต่เพลงพระราชนิพนธ์ที่ประชาชนทั่วไปได้ฟังเป็นเพลงแรกคือเพลงสายฝน ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ที่ 3 และได้รับความนิยมอย่างมากจากประชาชนมาจนถึงปัจจุบัน และตลอดรัชสมัยของพระองค์ได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง ด้วยแนวดนตรีที่มีความไพเราะ เนื้อหาของบทเพลงที่มีความร่วมสมัยและสอดแทรกคติเตือนใจ รวมถึงสร้างกำลังใจให้กับผู้ฟัง จึงทำให้เพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่คุ้นหูของประชาชนในทุกวัยมาจนถึงปัจจุบัน และเพื่อร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ จึงได้สำรวจความรับรู้ของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเกี่ยวกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช .-สำนักข่าวไทย