กรุงเทพฯ 13 มี.ค.- เครือข่ายลดอุบัติเหตุชูแคมเปญ “วิสัยทัศน์อุโมงค์ ลดเร็ว ลดเสี่ยง” ตระหนักขับรถเร็ว เหมือนขับเข้าอุโมงค์ ทำให้การมองเห็นด้านข้างแคบลง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุง่าย แนะขับขี่ด้วยความเร็วที่ปลอดภัย 50 กม./ชม. เขตเมือง และ 90 กม./ชม. นอกเมือง
สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย แถลงข่าว ลดเร็ว ลดเสี่ยง วิสัยทัศน์อุโมงค์ ฆ่าคุณได้ง่าย สร้างความเข้าใจทฤษฎีวิสัยทัศน์อุโมงค์ ตระหนักถึงอันตรายจากการใช้ความเร็ว จนทำให้การมองเห็นลดลง ณ โรงแรมริชมอนด์ อ.เมือง จ.นนทบุรี
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ กรรมการ สสส.กล่าวว่า จากข้อมูลองค์กรอนามัยโลก (WHO) พบปี 2558 ไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 24,237 คน เฉลี่ย2.6 คนต่อชั่วโมง คิดเป็น 66 คนต่อวัน ปัจจัยสำคัญนอกจากเมาแล้วขับ ความเร็วก็เป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามเพราะอุบัติเหตุบนทางหลวงที่เกิดขึ้นกว่าร้อยละ 76 มาจากความเร็ว ดังนั้น การรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ปี 2560 ได้เร่งสร้างความเข้าใจและตระหนักในประเด็นลดเร็ว ลดเสี่ยง ขับขี่ปลอดภัยบนท้องถนน ผ่านการรณรงค์โดยสื่อโฆษณาชุด “วิสัยทัศน์อุโมงค์ ลดเร็ว ลดเสี่ยง” เพื่อสร้างความเข้าใจว่าการขับรถเร็ว เหมือนกับการขับรถเข้าอุโมงค์ ทำให้การมองเห็นไม่ดี เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ อย่าง facebook youtube และติดตั้งป้ายโฆษณาตามท้องถนน
ด้าน นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ความเร็วเป็นตัวแปรสำคัญทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นด้านข้างลดลง ทำให้เกิดวิสัยทัศน์อุโมงค์ คือภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อขับรถเร็ว การมองเห็นด้านข้างของผู้ขับขี่จะแคบลงและโฟกัสแค่จุดตรงกลาง จากปกติสายตาคนเรามีองศาการมองเห็นถึง 180 องศา หากขับรถที่ความเร็ว 90กิโลเมตร/ชั่วโมง องศาการมองเห็นจะลดลงเหลือแค่ 50 องศา และหากมีอะไรจากด้านข้างเข้ามาตัดหน้ารถ จะมีเวลาเพียง 2 วินาที ในการตัดสิน ใจแตะเบรก ซึ่งใช้ระยะทางไป 25 เมตรแล้วกว่ารถจะหยุดสนิทจะต้องใช้ระยะเบรกอีก 58 เมตร รวมระยะเบรกที่ต้องใช้ทั้งหมด 83 เมตร ซึ่งการตอบสนองที่ช้าลง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงสูงมาก และแม้กฎหมายจะกำหนดความเร็วในเขตเมือง เทศบาล ไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ผู้ขับขี่ควรขับในความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง และไม่ควรขับเกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเขตนอกเมือง ซึ่งทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลงมากกว่าครึ่ง .-สำนักข่าวไทย