เจาะเครือข่ายลอบค้านอแรดข้ามประเทศ

 


กทม. 17 มี.ค.-ขบวนการค้านอแรด ซึ่งใช้ไทยเป็นศูนย์กลาง ส่งสินค้าจากต้นทางในแอฟริกาใต้ ไปปลายทางที่จีนหรือเวียดนาม ได้ถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และนำไปสู่คำสั่งย้ายและตั้งกรรมการสอบข้าราชการที่ปรากฏในภาพวงจรปิด ทั้งรองอัยการสระบุรี และตำรวจสนามบิน ขณะที่ผู้หญิง 2 คนที่เป็นผู้มารับกระเป๋าใบนี้หลบหนีไป โดยทั้งสองมีประวัติการเดินทางในต่างประเทศบ่อยครั้ง

21 24


ภาพวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะหญิงสาว 2 คน นำกระเป๋าสัมภาระเข้าเครื่องเอกซเรย์ของเจ้าหน้าที่ศุลกากรสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังพบว่าสิ่งของในกระเป๋านั้นคือนอแรด 21 นอ ลักลอบนำเข้าจากเอธิโอเปีย น้ำหนักเกือบ 50 กิโลกรัม มูลค่า 173 ล้านบาท

ต่อมาสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดข้อมูลว่าหนึ่งในบุคคลที่ปรากฏในภาพพร้อมๆ กับหญิง 2 คน ที่มารับกระเป๋าคือ ข้าราชการระดับรองอัยการจังหวัดท่านหนึ่ง จึงมีคำสั่งย้ายและตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง

22 27


ขณะที่รองโฆษก สตช. เปิดเผยว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการมีคำสั่งย้ายตำรวจยศ ร.ต.อ. 2 นาย ที่ปรากฏในภาพออกจาพื้นที่เช่นกัน ระหว่างรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องขบวนการลักลอบขนนอแรดผิดกฎหมายหรือไม่

23 26

ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่พบว่ากระเป๋าใบนี้ ต้นทางถูกส่งมาจากเอธิโอเปียก่อน 1 วันที่ผู้หญิง 2 คนที่ติดต่อรับกระเป๋าคือ หญิงชาวนครปฐม เดินทางมาจากเวียดนาม และหญิงชาวกรุงเทพฯ เดินทางมาจากกัมพูชา ทั้ง 2 คนมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันศุกร์ และมีข้าราชการมารอรับ โดยข้อมูลจากการข่าวของเจ้าหน้าที่พบ 1 ใน 2 มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด
กับหนึ่งในข้าราชการ และใช้จังหวะที่กระเป๋าถูกตรวจสอบ ผู้หญิง 2 คนนี้หลบหนีไป

25 28

ของกลางนอแรด 21 นอ ถูกส่งไปที่หน่วยปฏิบัติการนิติวิทยศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอว่าเป็นนอของแรดสายพันธุ์ใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่าเท่าที่ดูจากภายนอกคาดว่าน่าจะเป็นแรดขาวและแรดดำ มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาใต้ ซึ่งไซเตสขึ้นทะเบียนในกลุ่มบัญชีหมายเลข 1 เป็นสัตว์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์

มีรายงานว่าปัจจุบันมีการซื้อขายนอแรดกันอยู่ที่กิโลกรัมละ 250,000-300,000 บาท แต่เมื่อมาถึงปลายทางอย่างจีนและเวียดนาม ราคาจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเป็นหลักล้านบาท เชื่อว่านิยมใช้เป็นยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและยารักษาโรคมะเร็ง แต่ในทางการแพทย์ยังไม่มีผลยืนยัน และระบุเพียงว่ามีสารเคราติน การลักลอบฆ่าแรดยังคงมีอยู่ เพราะมันเป็นสัตว์ที่สายตาไม่ดี เคลื่อนไหวช้า

29 30

ขบวนการลักลอบค้านอแรดเคยเป็นข่าวโด่งดังในไทยเมื่อเดือนมกราคม 56 ซึ่งจับกุมชาวเวียดนามพร้อมนอแรด 6 ชิ้น น้ำหนัก 10 กิโลกรัม ซุกซ่อนในตุ๊กตาไฟเบอร์ฮิปโป ก่อนที่ในอีก 2 เดือนต่อมาจะมีการจับกุมตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3 นาย ที่คอยอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผ่านด่านตรวจโดยง่าย และก่อนหน้านั้นในปลายปี 55 นายจำลอง แหลมทองไทย ชาวไทย ถูกจับกุมและถูกศาลแอฟริกาใต้ตัดสินจำคุก 40 ปี จากการลักลอบค้านอแรดในตลาดมืด โดยเขารับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากหญิงขายบริการให้ปลอมตัวเป็นนักล่าสัตว์ เพื่อนำนอแรดส่งไปขายในเอเชีย และซัดทอดว่ามีนายทุนชาวลาวเป็นผู้บงการ ระหว่างนี้ตำรวจกำลังติดตามตัวผู้หญิง 2 คนที่หลบหนีออกจากสนามบินในวันเกิดเหตุ และขยายผลขบวนการค้านอแรดที่มีเครือข่ายยิ่งใหญ่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]