กรมสบส.9 ม.ค.-กรม สบส.ประสานคลินิก-โรงพยาบาลเอกชน ในกทม. และ13 จังหวัดพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ ร่วมจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชน
นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขตทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ ที่ กรม สบส.วันนี้(9 ม.ค.) ติดตามประเมินสถานการณ์น้ำท่วมใน 13 จังหวัดภาคใต้ และให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมมีผลกระทบวงกว้างได้มอบหมายให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ประสานคลินิกและโรงพยาบาลเอกชนในกทม.และในพื้นที่ 13 จังหวัดภาคใต้ เพื่อจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการตรวจรักษาประชาชนในพื้นที่ประสบภัยซึ่งเดินทางยากลำบาก เพื่อให้ได้รับบริการอย่างทั่วถึง ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเจ็บป่วยซ้ำเติม
ด้าน นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรม สบส.กล่าวว่า สั่งการให้กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน เร่งสำรวจจำนวน อสม.ใน13 จังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นคน เพื่อให้การช่วยเหลือด้านปัจจัย 4 เนื่องจาก อสม.บางคนขาดที่พักอาศัยบ้านถูกน้ำพัดทั้งหลังและมีบุคคลในครอบครัวเสียชีวิตจึงต้องให้การดูแลพิเศษ ขณะเดียวกันประสานให้ อสม.ในทุกจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม เร่งสำรวจบ้านเรือนที่มีผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคไตวาย ผู้พิการ ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และให้ทำเครื่องหมายเป็นสัญลักษณ์ติดไว้ที่หน้าบ้านว่าเป็นบ้านที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยกรม สบส.จะเร่งจัดอุปกรณ์สนับสนุนการปฏิบัติงานของ อสม. เช่น รองเท้าบูท เสื้อชูชีพ ถุงดำ ไฟฉาย ถุงมือยาง ยาสามัญประจำบ้าน เรือท้องแบน เป็นต้น เพื่อให้ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ โดยมีสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 11 จ.นครศรีธรรมราช และเขต 12 จ.สงขลา เป็นศูนย์ประสานงานหลักในภาคใต้ ที่ผ่านมาได้สนับสนุนอุปกรณ์ปฏิบัติงานให้อสม.ใน จ.พัทลุงและสงขลาไปแล้ว 250 ชุด
ทั้งนี้ วันนี้ให้ทีมวิศวกรฉุกเฉินจำนวน 2 ทีม ออกสำรวจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ใน จ.นครศรีธรรมราช และจ.สุราษฏร์ธานี ที่มียูนิตทำฟันซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อเร่งฟื้นฟูให้มีความปลอดภัยและพร้อมใช้งานได้ตามปกติ พร้อมทั้งให้เขตสนับสนุนบริการสุขภาพ เขต 11 จ.นครศรีธรรมราช จัดทีมวิศวกรติดตามเฝ้าระวังสถานพยาบาล ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันที่ จ.กระบี่ และรพ.หลังสวน จ.ชุมพร เนื่องจากมีมวลน้ำเพิ่มขึ้นจากฝนตกหนัก .-สำนักข่าวไทย