นนทบุรี 10 ม.ค. – นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จะเร่งระบายข้าวในสตอกรัฐบาลที่เหลืออีกประมาณ 8 ล้านตัน หมดภายในปีนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บเดือนละ 504 ล้านบาท หรือวันละ 17 ล้านบาท โดยช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากข้าวในตลาดเริ่มน้อยลง ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) จะเป็นผู้พิจารณาช่วงเวลาและปริมาณในการนำออกมาระบายอีกครั้ง คาดการประมูลข้าวล็อตแรกภายใน 1-2 เดือนนี้และอยู่ระหว่างดูความเหมาะสมว่าจะนำปริมาณออกมาประมูลมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ นบข.แบ่งกลุ่มข้าว 3 กลุ่ม คือ กลุ่มข้าวที่ควรระบายเป็นการทั่วไปเพื่อการบริโภค 3.01 ล้านตัน ซึ่งมีอายุการเก็บต่ำกว่า 5 ปี กลุ่มข้าวที่ควรระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อาหารคน ปริมาณ 3.15 ล้านตัน โดยเป็นข้าวไม่ตรงมาตรฐาน ข้าวผิดชนิดที่มีอายุการจัดเก็บต่ำกว่า 5 ปี ไม่เหมาะนำไปปรับปรุงเพื่อบริโภค กลุ่มข้าวที่ควรระบายสู่ภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อาหารคนและสัตว์ ปริมาณ 1.85 ล้านตัน ที่มีอายุการจัดเก็บเกินกว่า 5 ปี
ส่วนกรณีที่ นบข.เห็นชอบให้นำข้าวในสตอกไปแลกเป็นข้าวใหม่ 1,500 ตัน เพื่อนำไปบริจาคช่วยผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะจัดทำเป็นข้าวสารบรรจุถุง ขนาด 5 กิโลกรัม คาดว่าจะได้ข้าวสารประมาณ 300,000 ถุง โดยทาง คสช. จะเป็นผู้ดำเนินการนำไปแจกจ่าย ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะทำการสำรวจความต้องการที่ชัดเจน เพื่อให้ข้าวสารถึงมือผู้ประสบภัยอย่างแท้จริง
ขณะที่สถานการณ์ราคาข้าวตลาดโลกปี 2560 มองว่าราคาอาจยังไม่สูงกว่าปีที่ผ่านมามาก เนื่องจากสตอกข้าวโลกยังมีสูง ประกอบกับกระทรวงเกษตรของสหรัฐคาดการณ์ว่าผลผลิตของแต่ละประเทศค่อนข้างดีเนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย แต่หากมีเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นในแหล่งเพาะปลูกข้าวสำคัญ ก็จะส่งผลให้ดันราคาข้าวสูงขึ้นได้ ส่วนความคืบหน้าขายข้าวให้กับจีน 1 ล้านตันตามสัญญาเดิมนั้น อยู่ระหว่างเจรจาต่อรองราคากันอยู่และน่าจะสรุปราคาข้าวได้ก่อนตรุษจีนนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างไล่ราคากัน คาดน่าจะตกลงราคาประมาณ 380-390 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และสัปดาห์นี้ปลัดกระทรวงพาณิชย์จะหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อประเมินสถานการณ์ข้าวภายในประเทศอีกครั้งก่อนสรุปตัวเลขที่ชัดเจนว่าไทยจะสามารถส่งออกข้าวปีนี้ได้กี่ล้านตันต่อไป.-สำนักข่าวไทย