เร่งพิสูจน์ศพน้องหญิงสาวทอมถูกข่มขืนหรือไม่

กรุงเทพฯ 12 ม.ค.- ศานิตย์ รุดสอบผู้ต้องหาสาวหลังจับกุมได้ที่ จ.บุรีรัมภ์เพื่อคลี่คลายชนวนเหตุสังหารน้องหญิง สาวทอมอย่างเหี้ยมโหด พร้อมสั่งให้นิติเวชชันสูตรศพอย่างละเอียดว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วยหรือไม่

พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าสอบปากคำนางสาวกรรณิการ์ กรุมรัมย์ หรือดาว หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมกับพันตำรวจเอกอำนวย พงษ์สวัสดิ์ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี อุ้มฆ่านางสาวสุภัคสรณ์ พลไธสง แล้วนำศพไปฝังอำพรางอยู่ใกล้กับรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี

โดยนางสาวกรรณิการณ์ ถูกตำรวจควบคุมตัวมาจากจังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากพบมีความเชื่อมโยงกับคดีนี้ และยังอยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในด้านใด

ซึ่งพลตำรวจโทศานิตย์ เปิดเผยว่าในวันนี้จะควบคุมตัวพันตำรวจเอกอำนวย และนายนิวัฒน์ สวยทอง สองผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลจังหวัดตลิ่งชันฝากขังเป็นผัดแรกพร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และมีอัตราโทษสูง ขณะที่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่แนวทางการสืบสวนพบว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ และอยู่ในฐานะเป็นผู้จ้างวานให้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีการวางแผนกันหลายครั้ง ก่อนที่จะลงมือสำเร็จในวันที่ 13 ธันวาคม 2559

ทั้งนี้การค้นพบศพของนางสาวสุภัคสรณ์ เมื่อวานนี้ตำรวจได้พบเองจากการสืบสวน โดยที่ผู้ต้องหายังไม่รับสารภาพและไม่ได้ให้การเป็นประโยชน์มากนัก ซึ่งแนวทางการสอบสวนยังคงไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องหนี้สิน ชู้สาว หรือเรื่องอื่นๆ ซึ่งจะเร่งรัดให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ชันสูตรพลิกศพโดยละเอียดมพร้อมกับตรวจพิสูจน์ว่าผู้เสียชีวิตถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือถูกทำร้ายหรือไม่ เนื่องจากสภาพศพที่พบในที่เกิดเหตุไม่มีเสื้อผ้า

ส่วนผู้ต้องหาอีกสามคนคือ นายสามารถ แสงสิน / นายภาณุเมศวร์ มีลา และนายชัยยุทธ เบ็ญจชาติ ที่ยังหลบหนีขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว คาดจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ส่วนผู้ต้องหาจะรับราชการทหารหรือไม่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และประสานงานกับหน่วยงานต้นสังกัด หากพบว่าเป็นข้าราชการทหารก็จะให้ส่งตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านพลตำรวจตรีพรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่าภายหลังจากเมื่อคืนทางสถาบันนิติเวชรับศพที่คาดว่าเป็นศพของ นางสาวสุภัคสรณ์ พลไธสง หรือน้องหญิง ที่หายตัวไปและพบเป็นศพถูกฆ่าฝังดินที่จังหวัดกาญจนบุรี ขณะนี้ทีมแพทย์อยู่ระหว่างการผ่าชันสูตรศพ โดยจะมีการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต บาดแผลตามร่างกาย ลักษณะเอกลักษณ์บุคคล ของเหลวภายในร่างกาย ร่องรอยการถูกข่มขืนกระทำชำเรา และการตรวจตัวอย่างดีเอ็นเอ โดยจะเปรียบเทียบกับเส้นผมที่บิดาของนางสาวสุภัคสรณ์มอบให้เมื่อคืนนี้ คาดว่าช่วงบ่ายวันนี้จะสามารถให้ญาติรับศพผู้เสียชีวิตกลับไปทำพิธีทางศาสนาได้ รวมทั้งจะทราบสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ต้องรอเจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการตรวจสอบอีกครั้งต้องใช้เวลาอีกระยะ เมื่อได้ผลชันสูตรทั้งหมดจะส่งให้พนักงานสอบสวนนำไปประกอบในสำนวนดคี ทั้งนี้ยอมรับว่าในการชันสูตรศพยังมีอุปสรรคในเรื่องสภาพศพของผู้เสียชีวิตที่มีลักษณะเน่าเปื่อยมาหลายวันแล้ว ทำให้การตรวจสอบร่องรอยต่างๆ อาจต้องใช้เวลามากขึ้น

ขณะที่นายบุญชู พลไธสง บิดาของนางสาวสุภัคสรณ์ พลไธสง หรือน้องหญิง สาวทอมที่หายตัวไปและพบเป็นศพถูกฆ่าฝังดินที่จังหวัดกาญจนบุรี เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรอรับศพบุตรสาวกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดจังหวัดสระแก้ว พร้อมมาให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของบุตรสาว

นายบุญชู เปิดเผยว่า ตัวเองและครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยส่วนตัวเชื่อว่าศพที่ถูกขุดพบที่ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อคืนที่ผ่าน เป็นบุตรสาวของตัวเอง เนื่องจากว่าจำรอยสักได้ ส่วนการดำเนินคดีให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

นายบุญชู เผยอีกว่าน้องหญิงเคยถูกกลุ่มของผู้ต้องหาซึ่งเป็นตำรวจทุบรถแถวที่พักอพาร์ตเมนต์ ย่านเพชรเกษม เมื่อกลางปี 2558 และมีการชดใช้เงินค่าเสียหายเป็นจำนวนกว่า 60,000 บาท ส่วนรายระเอียดนั้นต้องถามทางมารดาของน้องหญิง เนื่องจากจะอยู่ใกล้ชิดกับบุตรสาวมากกว่าตน เพราะตนได้แยกทางกับภรรยามานานหลายปี จึงไม่ทราบถึงรายละเอียดหรือปัญหาความขัดแย้งของบุตรสาว

สำหรับกระแสข่าวที่บุตรสาวมีการรับเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาเป็นเงินกว่า4ล้านบาทนั้น ตนไม่ทราบถึงรายละเอียด แต่ก็ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะรับเงินจำนวนนั้น

อย่างไรก็ตาม วันนี้จะนำศพบุตรสาวกลับไปตั้งสวดที่วัดคลองอีแตก ตำบลโคกปี่ฆ้อง อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว ขณะที่มารดาของน้องหญิงอยู่ระหว่างเดินทางไปจุดที่พบศพ เพื่อเชิญวิญญาณของบุตรสาวกลับบ้าน ซึ่งก็ยังทำใจไม่ได้เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย