นนทบุรี 17 ม.ค.- เกษตรกรที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ยึดอาชีพเลี้ยงและขยายพันธุ์แพะนมมานานกว่า 30 ปี โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ด้วยการปลูกหญ้าและพืชสวนไว้เป็นอาหารแพะ ช่วยลดต้นทุนได้หลักหมื่นบาทต่อเดือน เป็นฟาร์มแพะต้นแบบเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้ที่สนใจศึกษาดูงานฟรี
ลูกแพะหน้าตาน่ารักที่กำลังแย่งกันดูดนมจากขวดที่เกษตรกรนำมาให้รับประทานเพิ่มเติม นอกเหนือจากหญ้าที่เป็นอาหารหลัก เป็นลูกแพะอีกหนึ่งคู่ที่เกิดมาจากการผสมของพ่อแม่พันธุ์ที่เลี้ยงเองในฟาร์มของลุงเหมราชย์ นาทอง เกษตรกรในตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ที่ยึดอาชีพขยายพันธุ์แพะ และรีดนมแพะบรรจุขวดขาย มานานกว่า 30 ปี แพะทั้งหมดของลุงเหมราชย์ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ซาแนน เพราะเป็นแพะนมขนาดใหญ่ที่ให้ปริมาณน้ำนมสูงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ลักษณะของสายพันธุ์นี้ ขนสั้น มีสีขาวครีมทั้งตัว
การเลี้ยงของฟาร์มนี้ ใช้วิธีเลี้ยงแบบในคอก หรือในโรงเรือนโดยแพะ 1 ตัว จะแบ่งพื้นที่คอกขนาดความกว้างและความยาว 1 เมตรครึ่ง รางสำหรับให้หญ้า กว้างไม่เกิน 40 เซนติเมตร นอกจากไม้ยางพาราแล้ว ยังสามารถใช้ไม้เต็ง และไม้ระแนง ได้อีกด้วย
ส่วนขั้นตอนในการผสมพันธุ์แพะ เริ่มจากเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์ ลำตัวยาว อายุตั้งแต่ 8 เดือนขึ้นไป ให้สังเกตช่วงอาการเป็นสัดแพะจะร้อง จากนั้นจับให้มาอยู่ในคอกเดียวกัน ไม่ควรทับเกิน 2-3 ครั้ง แยกแพะตัวผู้ออกจากตัวเมีย ถ้าผสมติดไม่เกินอีก 150 วัน ตัวเมียก็จะคลอดลูก โดยช่วงแรกต้องให้ลูกแพะอยู่กับแม่ประมาณ 30 วัน จึงแยกออก ส่วนแม่พันธุ์ต้องมีการพักท้องประมาณ 3 เดือน ก็ทำการผสมพันธุ์ใหม่ได้ ลูกแพะพออายุครบ 1 ปี จะขายเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ตัวละ 10,000-15,000 บาท
นอกจากนี้ลุงเหมราชย์ ยังได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการใช้พื้นที่บริเวณหลังบ้านปลูกหญ้าเนเปียร์ หญ้าขน และกล้วยน้ำว้า เพื่อเป็นอาหารให้กับแพะ ช่วยลดต้นทุนค่าอาหารแพะได้หลักหมื่นบาทต่อเดือน ปัจจุบันฟาร์มแพะแห่งนี้ยังเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ ให้กับนักเรียน นิสิต-นักศึกษา เกษตรกรและผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาดูงานฟรีอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย