พ่อ-ย่า ร่ำไห้รับศพลูกวัย 5 เดือน ถูกแม่โยนพื้นจนเสียชีวิต

รพ.ศิริราช 18ม.ค.-มูลนิธิปวีณาฯ นำพ่อและย่าของเด็กหญิงวัย5 เดือน เข้ารับศพที่ รพ.ศิริราช ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลด ด้านตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับแม่เด็ก


 

บ่ายวันนี้ (18 ม.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี  เดินทางมาที่นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรับศพเด็กหญิงวัย 5 เดือนที่ถูกแม่แท้ๆ ทำร้ายร่างกายโดยจับโยนลงพื้นจนอาการสาหัส เลือดออกในสมองและเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา  โดยมีพ่อและย่าของเด็กเดินทางมารับศพด้วย ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลดและการร่ำไห้


 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่17 ม.ค.ที่ผ่านมา  พลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ ว่ามีเด็กหญิงอายุ5 เดือนถูกแม่แท้ๆอายุเพียง 17 ปี ทำร้ายร่างกายอาการสาหัส นางปวีณาจึงโทรศัพท์ไปหา ผู้แจ้งและย่าเด็กจึงทราบว่า เหตุเกิดตั้งแต่วันที่9 ม.ค.โดยผู้แจ้งได้ยินเด็กร้องจึงเข้าไปที่บ้าน พบเด็กเลือดออกปาก จึงแจ้งให้ย่าทราบและแจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือเด็กและดำเนินคดีกับแม่เด็ก

 


ย่าเด็กวัย 40 ปี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในบ้านพักซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนบ้านมาแจ้งตนว่าแม่เด็กทำร้ายร่างกายเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) ตีและทุ่มลงพื้นปูน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่สอบถามแม่เด็กบอกว่าเป็นอุบัติเหตุน้องตกเปลที่บ้านย่านจรัญสนิทวงศ์ 52 จึงขอเข้าพบหลาน แต่ไม่ยอมให้พบ วันรุ่งขึ้นจึงทราบว่าเด็กรักษาตัวอยู่ห้องไอ.ซี.ยู รพ.ศิริราช จึงสอบถามอาการจากแพทย์ พบว่ามีอาการเลือดคั่งในสมอง 2 จุด กระดูกท้ายทอยหัก กะโหลกศีรษะร้าว ม่านตาปิด หูฉีก ช่วงบนร่างกายเขียวซ้ำทั้งหมด มองว่าหากตกเปลอาการคงไม่สาหัสขนาดนี้ เสียใจมากและรับไม่ได้ที่เป็นแบบนี้

 

ย่าเด็ก กล่าวอีกว่าเพื่อนบ้านแถวนั้นเคยบอกว่าพฤติกรรมของแม่เด็ก มักด่าทอและทำร้ายลูกเป็นประจำ สังเกตเห็นแม่เด็กชอบใช้ความรุนแรง ลงไม้ลงมือกับลูกเสมอ  ซึ่งตนเคยมีปากเสียงกับแม่เด็กบ้าง เรื่องการเลี้ยงลูก ตีลูก จึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจกลัวลูกมาแย่งความรัก  ตั้งแต่เกิดเหตุทราบว่า แม่เด็กมาเยี่ยมอาการบ่อยครั้ง แต่พอหมอโทรศัพท์แจ้งเมื่อช่วงเที่ยงคืนว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว กลับบอกว่าไม่มาไม่อยากมา ล่าสุดแม่เด็กก็ยังไม่ยอมรับว่า โยนเด็กลงกับพื้น เพียงแต่บอกว่าเคยทำร้ายร่างกายเด็กเท่านั้น

 

ด้านพ่อเด็ก วัย 20 ปี กล่าวว่า ที่ผ่านมาแม่เด็กเคยทำร้ายลูกหลายครั้ง ใน ช่วงที่ไม่อยู่และไปทำงาน เพราะมีพฤติกรรมขี้หึง ชอบใช้ความรุนแรงเคยเห็นกับตาว่าชอบตีลูกเวลาเด็กงอแงตนจะคอยตักเตือนหรือสอนว่าอย่าทำเด็ก บางครั้งแม่เด็กไม่ฟังก็จะอุ้มลูกออกข้างนอกทันที  ทั้งนี้ ตนทำงานเป็นรปภ.อยู่สวนสาธาระแห่งหนึ่ง แม่เด็กเคยไปพบว่า มีสาวๆ เข้ามาสอบถามทาง มาคุย จึงหึงหวง แต่ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องชู้สาว ลูกคนนี้ก็เป็นลูกคนแรกและรักมาก

 

นอกจากนี้ตอนตั้งครรภ์ใหม่ๆ แม่เด็กบอกว่าอยากเอาเด็กออก ไม่อยากมีลูกจะทุบท้องตัวเอง แกล้งตกบันไดบ้าง แต่ไม่สำเร็จ แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไปทำไม ส่วนการดำเนินคดี ให้เป็นไปตามกฏหมาย ตอนนี้เริ่มห่างๆ กับแม่เด็กแล้ว ไม่มีการติดต่อกัน แต่ทราบว่าอยู่บ้านย่านจรัญฯ

 

ทั้งนี้ วานนี้ (17 ม.ค.) มูลนิธิปวีณาฯประสานไปยังสน.บุปผารามท้องที่ นำย่าและผู้เห็นเหตุการณ์ไปแจ้งความเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พยานบุคคล และพยานแวดล้อม ในการดำเนินคดีกับแม่เด็ก อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการทำศพ มูลนิธิฯเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว  ซึ่งจะสวดพระอภิธรรมที่วัดอนงคาราม 1 คืนและทำการฌาปนกิจต่อไป

 

ขณะที่ พ.ต.อ.ชัยน์รัตน์ อรัญวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 กล่าวว่า ผลชันสูตรพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากสมองตาย ถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักมีเลือดออกในสมอง กะโหลกศีรษะแตก  ตอนนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานการเสียชีวิตให้แน่ชัด อีกทั้งแม่ยังเป็นเยวชนอายุเพียง17 ปี จึงต้องนัดสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำด้วยตำรวจไม่สามารถสอบปากคำโดยตรงได้ คาดเร็วที่สุดน่าจะไม่เกินเย็นวันนี้ ซึ่งพยานปากสำคัญให้การว่าแม่ชอบดุว่าลูก เนื่องจากอายุยังน้อยคงยังไม่พร้อมมีลูก มองว่าเป็นภาระ ส่วนรายละเอียดอื่นๆขอให้รอผลสอบสวนชัดเจนก่อนจะแจ้งให้ทราบต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

“มาริษ” ร่อนหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น”

ก.ต่างประเทศ 29 ก.ค.-“มาริษ” ส่งหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา เปิดใจขอทุกคนไม่ต้องห่วง กต.ร่วมมือเต็มที่ปกป้องอธิปไตยไทยและบูรณภาพแห่งดินแดน ยัน “ไทย” เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกลัวสายตาโลก บอกนานาชาติชื่นชมพรึ่บ! นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่าหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา, อนุสัญญาเจนีวา, กฎหมายระหว่างประเทศ, การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย, กฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายอาเซียน, ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด นายมาริษ กล่าวว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ […]