ผู้ผลิตลดราคาสินค้าช่วยน้ำท่วมภาคใต้

นนทบุรี 20 ม.ค. – ผู้ผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงห้างค้าปลีก พร้อมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่ามในพื้นที่ภาคใต้ ลดราคาสินค้า 3 กลุ่มจำเป็นต่อการฟื้นฟูหลังน้ำลดร้อยละ 30-50 ระยะเวลา 3 เดือน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาคเอกชน ประกอบด้วย ผู้ผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงห้างค้าปลีก ให้ความร่วมมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ เพื่อฟื้นฟูภายหลังน้ำลด โดยลดราคาจำหน่ายสินค้า 3 กลุ่มสำคัญ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้อยละ 35 สูงสุดถึงร้อยละ 50

ทั้งนี้ แบ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้าง 3 ราย ได้แก่ บจก.เอสซีจี  ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง ลดสูงสุดร้อยละ 35 ในร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้ บมจ.โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือห้างโฮมโปร  ลดสูงสุดร้อยละ 40 ใน 9 สาขาภาคใต้ และ บจก.ซีอาร์ซี เพาเวอร์ รีเทล หรือไทวัสดุ ลดสูงสุดร้อยละ 40 ใน 5 สาขาภาคใต้ โดยจะลดหลายรายการ เช่น ราคาปูนซีเมนต์, อิฐ, กระเบื้อง, สีทาบ้าน, ประตู และสินค้าที่เกี่ยวข้องในการซ่อมแซม

ส่วนห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ 3 ราย ได้แก่ ห้างแม็คโคร ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และห้างเทสโก้ โลตัส   ลดราคาสินค้าหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องครัว สูงสุดร้อยละ 50 เช่น หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน  พัดลม ตู้เย็น กะทะ จาน ชาม เป็นต้น รวมทั้งหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน ลดสูงสุด ร้อยละ 40  เช่น น้ำดื่ม ข้าวสาร นม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แชมพู เป็นต้น และหมวดอื่น ๆ ลดสูงสุดร้อยละ 30 เช่น ไม้กวาด แปรงขัดพื้น เป็นต้น  ทุกสาขาในจังหวัดภาคใต้ ขณะที่ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า  2 ราย ลดราคาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่  บจก.พานาโซนิค ซิว เซลล์ (ประเทศไทย)  5 สาขา และบจก.โตชิบา ไทยแลนด์ ทุกสาขาในจังหวัดภาคใต้

อย่างไรก็ตาม การลดราคาจำหน่ายสินค้าดังกล่าวทยอยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา และจะลดต่อเนื่องเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน  โดยผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีวิธีการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสซื้อเพื่อไปค้ากำไรไว้แล้วเช่นกัน ทั้งนี้  คาดว่าระยะ 3 เดือนของโครงการลดราคาช่วยใต้ครั้งนี้จะบรรเทาความเดือดร้อนจากท่วมใต้ได้ 400,000 ครัวเรือน หากแต่ละครอบครัวใช้จ่ายครัวเรือนละ 1,000 บาท จะมีเงินสะพัดประมาณ 400 ล้านบาท และเฉลี่ยราคาสินค้าลดร้อยละ  30 เท่ากับช่วยลดค่าครองชีพประชาชน 120 ล้านบาท อย่างไรตาม เชื่อว่าจะมีมูลค่ามากกว่านี้ พร้อมกันนี้กรมการค้าภายในกำลังสำรวจความต้องการธงฟ้าจำหน่ายสินค้าราคาถูก หากจังหวัดใดต้องการและพร้อมก็ให้ดำเนินการได้ทันที .-สำนักข่าวไทย