นายกฯ ไม่ขานรับใช้นโยบาย 66/23 สร้างความปรองดอง

19-10-2559 14-47-10ทำเนียบฯ  24 ม.ค.-  นายกฯ  ขอบคุณหลายพรรคการเมืองที่ร่วมมือเข้าสู่แนวทางปรองดอง ขณะที่ ข้อเสนอให้ใช้นโยบาย 66/23 เห็นว่า ต้องพิจารณาให้ดี เพราะสถานการณ์ปัจจุบันแตกต่างจากในอดีต


พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  กล่าวถึง กรณีพรรคการเมืองบางพรรคไม่เข้าร่วมแนวทางปรองดอง ของคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง  ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า  ไม่สามารถทำอะไรได้

“ทุกคนมีโอกาสที่จะเข้ามาพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ถ้าหากไม่มาร่วม ก็แสดงว่าไม่เห็นประเทศอยู่ในสายตา ว่าจะเดินหน้าประเทศไปอย่างไร   แล้วอนาคตจะเข้ามาเป็นรัฐบาลได้อย่างไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว


อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณพรรคการเมืองหลายพรรค ที่ให้ความร่วมมือเข้าร่วมในแนวทางนี้ และหากเมื่อพูดคุยกันแล้ว ไม่สามารถตกลงกันได้ สังคมจะเป็นผู้ตัดสินเอง

ส่วนข้อเสนอให้นำสูตรการปรองดอง ตามนโยบาย 66/23 ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ มาใช้  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องพิจารณาให้ดี เพราะในสมัยของพล.อ.เปรม มีสถานการณ์ที่แตกต่างกันกับปัจจุบัน  มีเรื่องการต่อสู้ และลัทธิ เข้ามาเกี่ยวข้อง และมีการใช้อาวุธสงคราม  แต่วันนี้สถานการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

“ขณะนี้ปัญหาคือ จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างไร ให้เป็นไปอย่างปกติ ส่วนตัวเชื่อว่าจะมีวิธีการที่สามารถกระทำได้ และเรื่องใดที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ก็ให้ดำเนินการไปตามกฏหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว


สำหรับข้อเสนอให้ นพ.ประเวศ วะสี เข้ามาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวลานี้โครงสร้างของคณะกรรมการยังไม่เรียบร้อย จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ โดยการสรรหาตัวบุคคลจะต้องมีความเหมาะสม และตรงกับภารกิจของกรรมการแต่ละชุด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า นายอำพน กิตติอำพน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้ตอบรับที่จะทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (PMDU)  แล้ว และส่วนตัวมองว่า นายอำพน มีความเหมาะสม เพราะทำงานมากับหลายรัฐบาล ที่สำคัญมีความเข้าใจในการขับเคลื่อนประเทศ       .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

เปิดแรงจูงใจไรเดอร์โหดทวงหนี้ ยิงสาวใหญ่ดับ

เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเหตุระทึกขวัญ เจ้าหนี้บุกยิงลูกหนี้ใน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.สามพราน โดยมีตัวประกันถูกขังไว้ภายในห้องด้วย อะไรคือแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ติดตามจากรายงาน

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้สปา “ดาราเทวี”

เจ้าหน้าที่ยังเร่งหาสาเหตุไฟไหม้เทวาสปา โรงแรมดาราเทวี หลังเจอจุดต้นเพลิง ด้านเจ้าของเผยไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย เป็นไปไม่ได้ที่จะเผาเอาเงินประกัน

ตำรวจคุมตัวทำแผนโจรบุกร้านทอง บอกผิดเองขอ 5 บาท

“โจร 5 บาท” ถูกจับหลังบุกร้านทอง ยอมรับตกใจกลัวหลังเจอเจ้าของร้านตวาดใส่ให้วางปืนตอนบุกชิงทอง พร้อมโทษตัวเองไม่บอกให้ชัด หวังทอง 5 บาท แต่ได้เงิน 5 บาท

ลูกพีช

ผบ.ตร. ย้ำภาพชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม

ผบ.ตร. ย้ำชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ อ้างเป็นญาติ ย้ำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ชี้ภาพชัดเจน แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม