ดุสิตธานี 26 ม.ค.-รองนายกรัฐนตรี มั่นใจการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนร่วมรักษามาตรฐานทุกด้านเพื่อก้าวไปอย่างมั่นคง และประชาชน มีรายได้อย่างยั่งยืน
ในงานสัมมนาท่องเที่ยวมันคงสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืนครั้งที่2 ภายใต้แนวคิด “พลังแห่งการเดินทางท่องเที่ยว : เชื่อมโยง แบ่งปันสร้างสรรค์สังคม ” พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพ ทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติที่เป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลก และประชาชนได้ร่วมอนุรักษ์สิ่งเหล่านี้ไว้ ทำให้หลายมรดกด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ซึ่งในปี259 ประมาณ 2.51 ล้านล้านบาท คิดร้อยละ 17.7% ของจีดีพี มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 32.6 ล้านคน
โดยช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยว ทำผลงานได้ดี ตัวเลขในปี2557 และ2558 ผลกำไรเกินเป้าร้อยละ 33 ซึ่งปีนี้ไม่อยากให้ตั้งเป้าเติบโตมากเพียงอย่างเดียว แต่ให้รักษาฐานเดิมไว้ให้ได้และก้าวเข้าสู่การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ยกระดับให้ได้มาตรฐาน ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการทุกภาคส่วน ในการดูแลนักท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวตามความเป็นจริง สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆที่ครอบคลุมด้านวัฒนธรรม สังคม สิ่งแวดล้อม และสร้างมั่นใจด้านการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ อยากให้คนไทยเที่ยวไทยเป็นหลักก่อน เพราะจะทำให้คนไทยรักประเทศรักกัน ซึ่งจะเป็นฐานให้เกิดความยั่งยืน จากนั้นจึงจะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเสริม มั่นใจว่าถ้าร่วมมือกันได้เหนียวแน่น การท่องเที่ยวของประเทศ ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆและก้าวไปอย่างมั่นคง ประชาชน มีรายได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ในการสัมมนา ได้นำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวแบบมั่นคงยั่งยืน เพื่อแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการ ประกอบด้วย กิจกรรมท่องเที่ยวในลักษณะการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมโฮมสเตย์และการศึกษาธรรมชาติในโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ในพื้นที่ 5จังหวัดชายแดนภาคใต้ ,การท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้โครงการตามพระราชดำริ ในพื้นที่โครงการหลวง นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนรู้ชุมชน เรียนรู้การแก้ปัญหาผ่านโครงการตามพระราชดำริทั้วประเทศ และการพัฒนาการท่องเที่ยวในโครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาพื้นที่ สู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ มีเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยว ที่มีความหลากหลาย เชื่อมโยงและครอบคลุมทุกมิติของสังคม อันจะนำไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป.- สำนักข่าวไทย