กรุงเทพฯ 27 ม.ค.- รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตัดสิทธิผู้เข้าสอบนายสิบตำรวจ 7 คน และเตรียมดำเนินคดีมือปืนให้ลอกข้อสอบอีก 6 คน ส่วนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยังไม่พบผู้เข้าข่ายทุจริต ขณะที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมเสนอศาล ออกหมายจับผู้ลอกข้อสอบสัปดาห์หน้า
พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า วันนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และภาค 7 จะประกาศผลการสอบนายสิบตำรวจ พร้อมกับกองบัญชาการอื่น ๆ ซึ่งในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ตัดสิทธิผู้มีพฤติกรรมน่าสงสัย 7 คน อาทิ เมื่อตรวจสอบกระดาษคำตอบ ก็ไม่มีการทดตัวเลข รวมทั้ง ประวัติการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าทำคะแนนได้ดี และปฏิเสธไม่มาสอบสัมภาษณ์เพิ่มเติม โดย1ในนั้น โทรศัพท์แจ้งว่า ได้งานที่อื่น และไม่ผ่านการสอบพละ เจ้าหน้าที่จึงตัดสิทธิเฉพาะ 7 รายดังกล่าว ส่วนจะดำเนินคดีหรือไม่ ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานอีกครั้ง นอกจากนี้ จะมีการดำเนินคดีกับมือปืนที่ทำหน้าที่ให้ลอกข้อสอบอีก 6 คน ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน
ส่วนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยังไม่พบบุคคลเข้าข่ายกระทำการทุจริต และจะประกาศผลภายในวันนี้ จำนวน 339 นาย แบ่งเป็นตัวจริง 250 นาย และสำรอง 79 นาย เบื้องต้น ยังไม่ตัดสิทธิผู้ใด แต่หากพบการกระทำผิด สามารถเอาผิดย้อนหลังได้ โดยหลังจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูภาพรวมการสอบตำรวจทั้งระบบ และหาแนวทางป้องกันปัญหาลักษณะดังกล่าว ไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต โดยอาจจะเสนอเป็นกฎหมายเฉพาะ เอาผิดผู้ทุจริตได้โดยตรง ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือ ทั้งนี้สำหรับผู้ถูกดำเนินคดี จะมีประวัติ และไม่สามารถสมัครสอบตำรวจรวมทั้งสอบเข้าข้าราชการสังกัดอื่นๆได้อีก
พลตำรวจตรีอดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล กระบวนการตรวจสอบยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก มีประเด็นที่ต้องตรวจสอบจำนวนมาก หลังออกหมายจับ หัวหน้ากลุ่ม และมือปืนไปแล้ว 52 ราย ในข้อหา แจ้งความเท็จกับเจ้าพนักงาน / ผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ และอั้งยี่ รวมทั้ง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ลอกข้อสอบเพิ่มเติม ซึ่งมีเกือบ 100 คน คาดจะทยอยเสนอศาลออกหมายจับได้ในสัปดาห์หน้า และในช่วงบ่ายนี้ จะมีการประชุมสรุปข้อมูลที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนจะเสนอข้อมูลให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับทราบ และประชุมอีกครั้งในเช้าวันที่ 30 มกราคมนี้.-สำนักข่าวไทย