เลขาฯ กกต. ลั่นไม่เกรงใจใคร จับกลโกงเลือก สว.

โรงแรมอัศวิน 25 มิ.ย.-เลขาฯ กกต. ยันไม่หมดท่าจับกลโกงเลือก สว. ลั่นไม่เกรงกลัว ไม่เกรงใจใคร ระบุส่ง จนท. ตรวจตามโรงแรมที่ผู้สมัครรวมตัว และพักที่เดียวกัน เผยตัวเลขรอบสุดท้าย เหลือ 2,995 คน ขาดคุณสมบัติถูกลบชื่อไป 5 ราย

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์ว่าจับกลโกงในการเลือก สว. ที่ไม่ง่ายจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ กกต.หมดท่า ว่า การที่ตนเองสื่อสารไปเมื่อวาน คือรูปแบบการทุจริต หรือการรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อวานเป็นเรื่องการรวบรวมหลักฐานแต่กลับถูกตีความว่า กกต. หมดท่าหรือไม่กล้า ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่อยากจะสื่อออกไปคือ อยู่ในขั้นพยานหลักฐาน ไม่รู้สึกเกรงกลัวหรือเกรงใจใคร ตั้งแต่มีการเลือกระดับจังหวัดได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้มีสิทธิเลือกทุกคน จนเข้ามาสู่รอบเลือกระดับประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครผ่านเกณฑ์ระดับประเทศ 2,995 คน จากเดิม 3,000 คนโดยถูกตัดสิทธิเนื่องจากขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามที่ศาลฎีกาได้ตัดสินแล้ว โดยจะถูกลบชื่อไป 5 คน ส่วนการร้องเรียนระดับจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ 2-3 เหตุการณ์ และระดับจังหวัดอีกทั่วประเทศ เกือบ 20 คดีที่ได้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา ได้มีการยกคำร้อง และสื่อตามมติของ กกต. ดังนั้นจึงไม่มีผู้สมัครเพิ่มขึ้น มีแต่ผู้สมัครลดลง


นายแสวง กล่าวถึง การรวมกลุ่มของบรรดาผู้สมัคร สว.ที่มาพักโรงแรมเดียวกัน ว่าจะมี 2 เรื่องในเรื่องเดียวกันคือ ผู้สมัครมีสิทธิ์ พักโรงแรมเดียวกัน แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง คนที่มาจากต่างจังหวัด ต่างพื้นที่กัน ทำไมมาอยู่ในโรงแรมเดียวกัน จึงเป็นเบาะแสว่า จะเกินกว่าการแนะนำตัวหรือไม่ ดังนั้นเมื่อวานนี้ กกต.ได้เข้าไปในโรงแรม 2 แห่งที่มีผู้สมัครพักอยู่ พบว่าเป็นการมาพบปะพูดคุยกันเพื่อแนะนำตัว โดย กกต. ได้ทำหน้าที่ทั้งกระบวนการป้องกัน รวบรวมพยานหลักฐาน หากเกิดการกระทำผิด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย การจะให้ใบเหลืองใบส้ม หรือใบแดงต่างๆ ก็ต้องส่งสำนวนไปที่ศาลฎีกา จะเอาเพียงความเชื่อความเห็นอย่างเดียวไปให้ศาลไม่ได้ต้องมีหลักฐาน ที่ศาลพอจะเชื่อได้ว่ามีการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือก สว. ดังนั้น ขอย้ำว่าการรวบรวมพยานหลักฐาน บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากส่วนหนึ่งทำถูกกฎหมาย แต่ถ้ากฎหมายระบุว่า การมารวมกันแล้วผิดก็เป็นเรื่องง่าย แต่สิ่งที่ผู้สมัครทำคือเรื่องที่ถูกกฎหมาย ครึ่งหนึ่งถูกกฎหมาย ส่วนอีกครึ่งจะผิดกฎหมายหรือไม่ อยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐานของ กกต.และพฤติกรรมของผู้สมัครด้วย โดย กกต.ได้ดำเนินงานเรื่องนี้มาโดยตลอด จึงอยากให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าไม่ได้ทำงานช้า ถึงยังไม่ได้หลักฐานในวันนี้ ก็อาจได้หลังจากนี้ และหากผ่านไปเป็น สว. ก็สามารถสอยภายหลังได้ ถ้ามีหลักฐานพยานครบถ้วน จึงฝากไปยังผู้สมัครทุกคนว่าหากมีเรื่องไม่ชอบมาพากล ก็สามารถส่งหลักฐานมาที่ กกต.เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ยอมรับว่าในทางการข่าวของ กกต.ได้รับร้องเรียนในทุกเรื่อง แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนกรณีที่ผู้สมัคร สว.ระดับประเทศตกรอบ แต่ในอนาคตไปรับตำแหน่งที่ปรึกษา หรือผู้ช่วย สว.นั้น จะสะท้อนว่ามีดีลลับหรือ ส่งประโยชน์กันหรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่า ถือเป็นเบาะแสอย่างหนึ่ง และบอกเหตุอย่างหนึ่งว่าเป็นสมมติฐาน ว่ามีการแลกผลประโยชน์กันหรือไม่ ซึ่งอาจคำนวณเป็นตัวเงินได้ แต่กกต.ก็ต้องสืบต่อว่า เรื่องเช่นนี้มีการเชื่อมโยง ในการแลกเปลี่ยนกันหรือไม่ แต่จะเอาผลมาตัดสินเลยไม่ได้เพราะต้องให้ความเป็นธรรม กับทุกฝ่าย


สำหรับคืนนี้จะต้องจับตาเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า มีเรื่องของผู้สมัคร สว.ที่ไปชุมนุมกันตามโรงแรมต่างๆ นั้นอยู่ในบัญชีของ กกต. แล้ว การมาชุมนุมกันอาจเป็นเพียงการพบปะแลกเปลี่ยนเพื่อที่จะลงคะแนนในวันพรุ่งนี้ แต่อย่างน้อย กกต.ก็มีการสอดส่องเฝ้าดูอยู่ว่ามีสิ่งไหนทำผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อตนพูดออกไปเช่นนี้ก็หวังว่าจะไม่มีการกระทำเกิดขึ้น

ขณะเดียวกันตามโรงแรมจะมีฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่า ผู้สมัครเดินทางล่วงหน้า 2-3 วัน แล้วมาเข้าพักในหลายโรงแรม เมื่อมาอยู่ในโรงแรม เป็นที่สาธารณะก็มีการแนะนำตัวกัน แต่สิ่งที่ตกลงกันมาก่อน จะมีหรือไม่ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดคะเนได้ แต่อาจจะมีการนัดแนะ เพราะคนอยู่ต่างสถานที่ ก็ไม่น่าจะมาอยู่รวมกันที่โรงแรมเดียวกัน

เมื่อถามว่า กกต.หนักใจหรือไม่นายแสวงไม่ตอบคำถาม แต่ระบุว่าขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ว่าจะไปลงโทษใคร ซึ่งการดำเนินคดีหรือทำสิ่งใดก็ตาม ต้องมีพยานหลักฐาน และส่งทุกคดีไปยังศาลฎีกาเพื่อให้ศาลตัดสิน


เลขาธิการ กกต.ยังฝากไปยังผู้สมัคร สว.ว่าขอให้เดินทาง มาถึงเมืองทองธานีสถานที่เลือก สว.ระดับประเทศ เลยต้องเผื่อเวลา เนื่องจากการจราจรจะติดขัดเป็นอย่างมาก และหวังว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย