พาณิชย์เดินหน้าทำตลาดบิ้วด์เน้นของกินที่ต่างชาตินิยม

นนทบุรี 7 ก.พ. – รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ปิ้งไอเดียสร้างตลาดบิ้วด์ เน้นของกินที่ต่างชาตินิยม ตั้งเป็นตลาดในแหล่งนักท่องเที่ยวหลัก จ่อผุดตลาดทุเรียนรับชาวจีน ตลาดซีฟู้ดส์รับชาวยุโรป ของบ 3,000 ล้านบาท ดันตลาดกลางทั่วประเทศ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในเร่งศึกษาความเหมาะสมในการพัฒนาตลาดเฉพาะที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งต้องเชื่อมโยงกันระหว่าง แหล่งท่องเที่ยวกับกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย ด้วยการจัดตั้งตลาดในย่านที่นักท่องเที่ยวหลักนิยมไปมากที่สุด เช่น จะจัดตั้งตลาดทุเรียนที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ชอบทานทุเรียน และไปเที่ยวเชียงใหม่จำนวนมาก ทั้งปีมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยปีละกว่า 8 ล้านคน นอกจากนี้ จะตั้งตลาดนัดอาหารซีฟู๊ดส์ภาคใต้ เพื่อเจาะตลาดนักท่องเที่ยวชาวยุโรป หรือตามหัวเมืองรองที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากบริการนักท่องเที่ยวที่ชอบอาหารทะเล ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อาจจะมีตลาดผลไม้ชนิดอื่น ๆ หรือ ผัก อาหาร เพื่อให้ตลาดเหล่านี้เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของแต่ละภาคในประเทศที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย

“การจัดตั้งตลาดในลักษณะดังกล่าวนี้ ทำจริงจัง โดยนำแนวคิดจากตลาดอาหารทะเลของสิงคโปร์มาประยุกต์พัฒนาตลาดที่มีเอกลักษณ์ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวได้โดยตรง จึงสามารถดึงนักท่องเที่ยวให้ไปทานอาหารทะเลที่สิงคโปร์ได้จำนวนมาก และไม่ต้องการให้มีแค่การจัดตั้งตลาด แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดก็กลายเป็นตลาดร้าง เปลืองงบประมาณเปล่า ๆ แต่ตลาดนี้ ซึ่งยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่เรียกเองก่อนว่าเป็นตลาดบิ้วด์ ที่ยืนยันว่าจะต้องเป็นรูปธรรมและแจ้งเกิดภายในปีนี้ให้ได้ ขณะนี้กำลังให้กรมการค้าภายในเร่งศึกษา โดยอาจจะเป็นตลาดที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ หรือปรับปรุงจากตลาดเดิมมาเป็นตลาดใหม่ตามแนวคิดนี้” นายสนธิรัตน์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าของนโยบายการจัดทำตลาดกลางประชารัฐ 3 ตลาด ทั้งตลาดกลางทั่วไป ตลาดกลางสินค้าเฉพาะอย่าง และตลาดกลางชุมชน ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีนั้น ขณะนี้หารือกับพาณิชย์จังหวัดและตัวแทนกองทุนหมู่บ้านแล้ว เบื้องต้นพาณิชย์จังหวัดแจ้งว่าสามารถที่จะทำตลาดกลาง 140 แห่ง ครอบคลุมทั้ง 3 ตลาดดังกล่าวแล้ว โดยหลังจากนี้จะเป็นประธานจัดตั้งคณะกรรมการเข้ามาติดตามการดำเนินงานของตลาดกลางดังกล่าวโดยตรงและจัดตั้งกลุ่มของตลาดกลางที่มีศักยภาพเข้าข่ายแต่ละประเภทของตลาด เพื่อความเหมาะสมอีกครั้งต่อไป

“สัปดาห์นี้จะเร่งรัดจัดตั้งคณะทำงานให้เสร็จ เพื่อจัดกลุ่มพื้นที่ตลาดที่พาณิชย์จังหวัดเสนอมาเป็นหมวดหมู่ จากนั้นจะคัดเลือกตลาดที่มีศักยภาพออกมาพัฒนาก่อน โดยจะศึกษาศักยภาพแบบเชิงลึก เน้นไปที่การพัฒนาตลาด เพื่อต่อยอดเข้ากับการท่องเที่ยวและใช้ตลาดกลางประชารัฐเหล่านี้เป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จและเห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนภายใน 3-6 เดือนข้างหน้าแน่นอน อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้ของบประมาณดำเนินการไปแล้ว 3,000 ล้านบาท จากงบกลาง ซึ่งต้องรอดูอีกครั้งว่าจะได้งบประมาณตามที่ขอหรือไม่” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในจะต้องเร่งพัฒนาตลาดต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิม อาทิ ตลาดชุมชน ร้านค้าชุมชน ตลาดต้องชมให้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนนั้น เพื่อมุ่งเน้นให้ประเทศไทยมีแลนด์มาร์คสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องแวะจับจ่ายใช้สอย เป็นแหล่งรวมอาหาร ผัก ผลไม้และของฝากที่ต้องซื้อ รวมทั้งทำให้โครงการพัฒนาตลาดกลางต่าง ๆ เข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งคาดหวังว่านโยบายพัฒนาตลาดกลางประชารัฐ และตลาดเฉพาะเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศได้อย่างชัดเจนปีนี้.-สำนักข่าวไทย