เตรียมเชิญนักการเมืองพูดคุยแนวทางปรองดอง 14 ก.พ.นี้

416กลาโหม 9 ก.พ.-โฆษก กห. แจงการประชุมคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองนัดแรก รับทราบการตั้งคณะอนุกรรมการ 4 คณะ เผยเตรียมเชิญนักการเมืองพูดคุยแนวทางสร้างความปรองดอง 14 ก.พ.นี้


พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง นัดแรก ในวันนี้ (9 ก.พ.) โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า เป็นการแจ้งคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ อย่างเป็นทางการ และรับทราบการตั้งคณะอนุกรรมการ 4 คณะ คือ 1.คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง มีปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน 2.คณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน 3.คณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอ กระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง มีผู้บัญชาการทหารก เป็นประธาน และ 4.คณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง มีโฆษกกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน

“คณะแรกมีหน้าที่รับฟังความเห็นทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย โดยการเปิดเวทีสาธารณะ และจะส่งข้อมูลต่อให้คณะที่ 2 เพื่อวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อเท็จจริงส่งต่อให้กับคณะที่ 3 เพื่อจัดทำข้อเสนอ ส่วนคณะที่ 4 จะทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์เผยแพร่” พล.ต.คงชีพ กล่าว


417พล.ต.คงชีพ กล่าวด้วยว่า กระบวนการทำงาน จะเปิดเวทีรับฟังความเห็นทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ผ่านกลไกของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป หรือ ศปป.ควบคู่กัน หลังจากนั้นจะมีการประชุมกลุ่มย่อย โดยเชิญนักการเมืองมาแลกเปลี่ยนหารือ จัดทำความเห็นร่วมเพื่อนำไปสู่การจัดทำร่างสัญญาประชาคม และขั้นต่อไปจะเปิดเวทีรับฟังความเห็นร่างสัญญาประชาคม ซึ่งจะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน จากนั้นเมื่อจัดทำเสร็จจะเสนอคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ต่อไป โดยสถานที่แลกเปลี่ยนความเห็นส่วนกลางจะใช้พื้นที่กระทรวงกลาโหม โดยเน้นหัวข้อสำคัญ 10 ด้าน คือ 1.ด้านการเมือง 2.ด้านความเหลื่อมล้ำ การครอบครองที่ดินทำกินของเกษตรกร การบริหารจัดการน้ำ 3.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 4.ด้านสังคมเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข 5.ด้านสื่อสารมวลชน 6.ด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7.ด้านการต่างประเทศ 8.ด้านการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น 9.ด้านการปฏิรูป และ 10.ด้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมในเรื่องการเสนอความเห็นเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาและการหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติในอนาคต

“รัฐบาลนี้ตั้งใจจริงในการสร้างความปรองดอง และจุดยืนคือการรับฟังความเห็น ดังนั้นความสำเร็จขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยยึดประชาชนเป็นหลัก เน้นความเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ โดยยังมีบุคคลที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังอีกหลายคน เพื่อร่วมกันสร้างความปรองดองบนพื้นฐานผลประโยชน์ชาติ โดยจะพยายามเชิญนักการเมืองกลุ่มแรกมาพูดคุยในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งตรงกับวันแห่งความรัก จึงน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี” พล.ต.คงชีพ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]