กรุงเทพฯ 13 ก.พ.-ปตท.ยืนยันในช่วง 10 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะไม่ขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ ส่วนราคาน้ำมันปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่าในช่วง 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะไม่ประสบภาวะขาดแคลนก๊าซ แม้ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและแหล่งในอ่าวเมาะตะมะ ประเทศเมียนมาร์ จะทยอยลดลง สวนทางกับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก ปตท.เตรียมจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG จากหลายแหล่งเข้ามาเสริมรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นไว้แล้ว โดยในอนาคตจะมีปริมาณ LNG มากถึง 19 ล้านตัน/ปี
ด้านสัญญาการจัดหา LNG ขณะนี้ ปตท.มีสัญญาซื้อก๊าซ LNG ระยะยาวกับประเทศการ์ตา , SHELL EASTERN TRADING (PTE) LTD และ BP SINGAPORE PTE. ลงนามไปแล้ว โดยจะรับมอบ LNG ชุดแรกจากเชลล์และบีพี เริ่มเมษายนปีนี้ ส่วนร่างสัญญาจัดซื้อ LNG กับบริษัท ปิโตรนาส ของประเทศมาเลเซีย อีก 1.2 ล้านตัน/ปี คาดว่าจะลงนามได้ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งจะส่งผลให้โดยภาพรวมการจัดหา LNG ที่เป็นสัญญาจัดหาระยะยาวจะมีปริมาณเกินกว่า 5 ล้านตันต่อปีแล้ว
ด้านสถานีรับจ่ายก๊าซ LNG จาก กพช.เห็นชอบ ปตท.ดำเนินการขยายสถานีรับ-จ่าย LNG Receiving Terminal แห่งที่ 1 ระยะที่ 2 ที่ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณสำรอง LNG เพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านตัน/ปี เป็น 10 ล้านตัน/ปี จะก่อสร้างเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งจะเพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศไปอีก 3-4 ปีข้างหน้า หลังจากนั้นจะขยายปริมาณรองรับ Terminal แห่งที่ 1 ระยะที่ 2 ให้มีศักยภาพรองรับ LNG เพิ่มเป็น 11.5 ล้านตันต่อปี ใช้เวลาดำเนินการอีกประมาณ 2 ปี และ ปตท.จะดำเนินการก่อสร้าง LNG Receiving Terminal แห่งที่ 2 ใช้เวลาก่อสร้าง 5-6 ปีเสร็จ สามารถรองรับ LNG เพิ่มขึ้นมาอีก 7.5 ล้านตัน/ปี รวมแล้ว ปตท.สามารถรองรับ LNG ได้ถึง 19 ล้านตัน*ปี น่าจะเพียงพอกับความต้องการในช่วง 10 ปีข้างหน้าไปได้ ในขณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจะรับก๊าซ LNG ในฝั่งตะวันตกของอ่าวไทยด้วย โดย ปตท.อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการก่อสร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลวลอยน้ำ (Floating Storage and Regasification Unit : FSRU) กับประเทศเมียนมาร์ เพื่อเชื่อมต่อ LNG ที่แปรสภาพเป็นก๊าซธรรมชาติส่งเข้ามาในท่อ ซึ่งปกตินำเข้าก๊าซจากแหล่งก๊าซธรรมชาติ ซอติกา ยานาดา และเยตากุล เข้ามาในประเทศอีกด้วย
นายเทวินทร์ คาดการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้ว่า ราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในช่วงประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับขึ้นมาจากที่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาอยู่ในช่วงกว่า 20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และทยอยปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง. – สำนักข่าวไทย