ทำเนียบฯ 28 ก.พ.-โฆษกรัฐบาล เผยที่ประชุม คสช.เห็นชอบหลักการรื้อระบบรถโดยสารสาธารณะกรุงเทพฯ-ปริมณฑล รถร่วมฯ ขอใบอนุญาตตรงจากกรมการขนส่ง ขณะที่นายกฯ หวั่นทำประชาชนสับสน-ผู้ประกอบการไม่ยอมรับ สั่ง ก.คมนาคม จัดทำแผนงานที่ชัดเจนภายใน 2 ปี ขณะเดียวกันนายกฯ ฝากให้ สติ ม.44 ไม่ได้แก้ทุกปัญหา
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า คสช.มีการพิจารณาข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม ที่เสนอให้ คสช. มีมติออกคำสั่งหัวหน้า คสช. มาตรา 44 ในการปฏิรูประบบรถโดยสารธารณะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ปัจจุบันมีการเดินรถ 202 สาย รวม 6,000 คัน ซึ่งเป็นรถโดยสารสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 2,600 คัน ที่เหลือเป็นรถของบริษัทเอกชน โดยมีเงื่อนไขการดำเนินการ คือ กรมการขนส่งมวลชนจะออกใบอนุญาตให้กับ ขสมก. และ ขสมก.จะนำใบอนุญาตจัดทำสัญญาร่วมกับบริษัทเอกชน
“ซึ่งใบอนุญาต 1 ใบ มีอายุ 7 ปี และเอกชนจะต้องเสียเงินให้กับ ขสมก. ปีละ 1,000 บาท และค่าบริการ 15 บาทต่อคันต่อปี ส่งผลให้รถเมล์ของเอกชนจะต้องแข่งขันกัน จนเกิดแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรง การขับรถเร็ว และอื่น ๆ ตามมา ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงขอให้ คสช. ใช้อำนาจหัวหน้า คสช. มาตรา 44 รื้อระบบดังกล่าว โดยให้บริษัทเอกชนขอใบอนุญาตโดยตรงจากกรมการขนส่ง แต่นายกรัฐมนตรีให้ข้อสังเกตว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และบริษัทเอกชนหรือผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะอาจจะยังไม่พึงพอใจแนวทางดังกล่าว” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากระทรวงคมนาคมจะชี้แจงว่าได้ทำความเข้าใจกับประชาชนและเอกชนมาระยะหนึ่งแล้ว โดยผลการศึกษาของทีดีอาร์ไอพบว่าผู้ประกอบการพึงพอใจแนวทางดังกล่าว แต่ที่ประชุม คสช.เห็นว่ากระทรวงคมนาคมยังไม่มีแผนงานที่ชัดเจน และเมื่อออกคำสั่งหัวหน้า คสช. แล้ว ทุกฝ่ายอาจยังไม่พึงพอใจแนวทางที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนั้นจึงเห็นชอบเพียงหลักการ และให้กระทรวงคมนาคมไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนและผู้ประกอบการ พร้อมกับกำหนดแผนงานที่ชัดเจนภายใน 2 ปี โดยเฉพาะการจัดทำสัญญาหรือบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมการขนส่ง ขสมก. และเอกชนที่ชัดเจน
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่าการดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกายเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรา 44 ไม่ขลัง
“ซึ่งนายกรัฐมนตรี ฝากว่าไม่มีกฏหมายอะไรที่แรงไปกว่านี้แล้ว การแก้ปัญาทั้งหมด ขึ้นอยู่ที่ความร่วมมือ และเจ้าหน้าที่พยามทำให้สงบเรียบร้อย วันนี้มี คสช.มีมาตรา 44 วันหนึ่งข้างหน้าไม่มี จะเกิดปัญหาตามมาเรื่อย ๆ อยากให้สติสังคมว่ามาตรา 44 ไม่ได้แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง เราพยามทำดีที่สุด” พล.ท.สรรเสริญ.-สำนักข่าวไทย