กรุงเทพฯ 25 พ.ย.- บรรรยากาศบริเวณแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการทดลองปิดสะพานข้ามแยกรัชโยธินตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา สภาพการจราจรเริ่มมีปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะถนนรัชดาภิเษก หลังเจ้าหน้าที่นำแบริเออร์มาวางทำเป็นทางเบี่ยงกั้นให้รถวิ่งไปในทางราบตรงไปแยกรัชโยธิน
โดยถนนรัชดาฯ ฝั่งขาเข้า ท้ายแถวชะลอตัวทางลงสะพานรัชวิภา ส่วนรัชดาฝั่งขาออก การจราจรหนาแน่นท้ายแถวอยู่บริเวณหน้าสำนักงานอัยการสูงสุด อย่างไรก็ตาม ถนนรัชดาภิเษกทั้งสองฝั่ง เจ้าหน้าที่ยังคงเปิดให้รถวิ่งตรงผ่านแยกไปได้ซึ่งต้องมาติดตามจังหวะสัญญาณไฟจราจร แต่เมื่อพ้นแยกไปแล้วการจราจรคล่องตัวดีทั้งสองฝั่ง
ส่วนถนนพหลโยธิน ขาออก จากห้าแยกลาดพร้าวมุ่งหน้าแยกรัชโยธิน ปริมาณรถน้อยยังคล่องตัว ท้ายแถวอยู่บริเวณปากซอยพหลโยธิน 19 ส่วนฝั่งกลับกันถนนพหลโยธินขาเข้าท้ายแถวสะสมยาวถึงแยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
พ.ต.ท.พงษ์สวัสดิ์ เสียมศักดิ์ รองผู้กำกับการจราจร สน.พหลโยธิน กล่าวว่า การจรจาจรในช่วงเช้าหลังปิดสะพาน ปริมาณรถที่ใช้ทางทั้งถนนพหลโยธินและรัชดามีปริมาณมาก แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสัญญาณไฟเมื่อปริมาณรถด้านใดมีจำนวนมากก็จะเร่งระบายก่อน ซึ่งถือว่ายังบริหารจัดการได้ดี
อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทดลองปิดสะพานข้ามแยกรัชโยธิน ซึ่งจะทดลองปิดถึงเวลา 17.00 น. จากนั้นจะเปิดให้รถวิ่งขึ้นสะพานได้จนถึงเที่ยงคืนวันนี้ ก่อนจะทำการปิดสะพานเป็นการถาวรตั้งแต่เวลา 01.00 น.เป็นต้นไป เพื่อทำการรื้อถอนสะพานและสร้างอุโมงค์ลอดแยกใช้เวลาประมาณ 2 ปี.-สำนักข่าวไทย