คาดตลาดอสังหาฯ ปีนี้ทรงตัว

กรุงเทพฯ 28 พ.ย. – ภาคอสังหาริมทรัพย์คาดตลาดปีนี้ทรงตัว คาดปีหน้าผู้ประกอบการเตรียมปรับตัว เน้นผู้อยู่อาศัยกลุ่มพรีเมี่ยม พร้อมเปิดตัวบ้านต้นแบบ Pruksa Plus House ตอบโจทย์เทรนด์ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต


นายเลอศักดิ์  จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่าตลาด 265,777 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และตลาดต่างจังหวัดมีมูลค่า 78,869 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 12.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน หากยังไม่มีปัจจัยบวกมาสนับสนุนจากสภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยภายในประเทศที่ยังชะลอตัว คาดว่าทั้งปีตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะเติบโตทรงตัว หรือใกล้เคียงกับปี 2558 มีมูลค่าตลาดรวม 350,000 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล  ขณะที่ปี 2560 คาดผู้ประกอบการรายใหญ่จะมีการปรับตัว เน้นลูกค้ากลุ่มผู้อยู่อาศัยระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น เนื่องจากมีกำลังซื้อและมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พฤกษาพัฒนาโครงการต้นแบบ “Pruksa Plus House”  ที่โครงการเดอะแพลนท์ เอสทีค พัฒนาการ 38 และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยทั้ง 4 ด้านในอนาคต (4 Consumer Mega Trends)  ได้แก่ 1. บ้านแข็งแรงปลอดภัย (Safety Home) ด้วยการก่อสร้างที่ใช้นวัตกรรม “พฤกษา พรีคาสท์” ทำให้ได้บ้านที่แข็งแรงทนทานปลอดภัย  2. บ้านที่ใส่ใจสุขภาพและผู้สูงอายุ (Healthy Home) เลือกใช้วัสดุภายในบ้านคำนึงถึงสุขภาพผู้อยู่อาศัย เช่น วัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งที่ปราศจากสารก่อมะเร็ง ห้องน้ำดีไซน์สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วย ลิฟท์ (แบบเก้าอี้เลื่อน) สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้มีปัญหาการขึ้นลงบันได การออกแบบฟังก์ชั่นภายในบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ เช่น ทางลาดสำหรับรถเข็น  3. บ้านประหยัดพลังงาน (Green Home) มีการนำเทคโนโลยีและกระบวนการก่อสร้างช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ  และนำพลังงานทดแทนมาใช้ เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ระบบ Ice Storage / Hot Water Storage การติดตั้งฉนวนกันความร้อนภายในบ้าน การใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ ระบบระบายอากาศที่ออกแบบให้กันความร้อนและควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการใช้พลังงานแล้วยังช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้อยู่อาศัยระยาวอีกด้วย และ 4.บ้านทันสมัย (Smart Home) นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ด้วยการนำแอพพลิเคชั่นมาใช้ในการควบคุมการเปิดปิดสวิชต์ไฟ เครื่องปรับอากาศ และกล้องวงจรปิดภายในบ้านบนสมาร์ทโฟน เป็นต้น  ทั้งนี้ Pruksa Plus House ก่อสร้างบนที่ดินขนาด 63.7 ตารางวา  พื้นที่ใช้สอย 200 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ก่อสร้างตามมาตรฐาน German Sustainable Building Council ที่ดูแลเรื่องการประเมินอาคารเขียวของประเทศเยอรมนี.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ