อสส.สั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบสั่งไม่ฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา”

กทม. 26 ก.ค. – อัยการสูงสุดสั่งตั้งคณะทำงาน 7 คน ตรวจสอบสำนวนคดี “บอส อยู่วิทยา” คลายปมสงสัยสั่งไม่ฟ้องคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555



กรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง พ้นข้อกล่าวหาทั้งหมดในคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555  หลังจากพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จนมีกระแสความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก CSI LA ได้นำเอกสารที่ระบุว่าเป็นเอกสารจากสำนวนคดีนี้มาเผยแพร่ ซึ่งสร้างความน่าสงสัยถึงที่มาของพยานที่โผล่เข้ามาในสำนวนใหม่ในช่วงวันที่ 4 ธันวาคม 2562 และมีเอกสารอยู่ฉบับหนึ่งที่ระบุว่าดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ เป็นผู้ต้องหาที่สองในคดี เนื่องจากพยานใหม่ระบุว่าเห็นเหตุการณ์ว่าดาบตำรวจวิเชียรขี่รถจักรยานยนต์เปลี่ยนช่องการจราจรจากช่องซ้ายสุดไปช่องขวาสุดตัดหน้านายวรยุทธในระยะประชิด ทำให้นายวรยุทธที่ขับขี่รถยนต์อยู่ที่ช่องขวาสุดด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้พนักงานอัยการมีความเห็นว่านายวรยุทธไม่ได้ประมาทปราศจากระมัดระวัง แต่กลับเป็นดาบตำรวจวิเชียรเองที่ประมาทจนทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง และทำให้นายวรยุทธพ้นทุกข้อกล่าวหานั้น

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยเบื้องต้นได้รับทราบเกี่ยวกับการนำเอกสารในสำนวนมาเผยแพร่แล้ว แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบ เนื่องจากขณะนี้ติดราชการอยู่ที่ จ.ขอนแก่น แต่ในเรื่องสำนวนและข้อเท็จจริงในสำนวนคดีนี้ อัยการสูงสุดได้สั่งให้เรียกสำนวนคดีมาตรวจสอบ คาดตรวจสอบสำนวนได้ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ และหากมีความคืบหน้าจะมีการชี้แจงให้ทราบอีกครั้ง    



ล่าสุดอัยการสูงสุดมีคำสั่งทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีดังกล่าว โดยมีนายสมศักดิ์ ติยะวานิช รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และคณะทำงานอื่นรวมทั้งสิ้น 7 คน โดยให้เร่งตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็ว ว่าการสั่งสำนวนคดีนี้เป็นไปตามหลักกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และมีเหตุผลในการสั่งพิจารณาคดีอย่างไร และเมื่อได้ผลคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ

พันตำรวจเอกภัคพงศ์ สายอุบล รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยล่าสุดยังไม่พบข้อมูล “บอส” เดินทางกลับเข้าประเทศไทย พบแต่ข้อมูลเดินทางออกไปนอกประเทศล่าสุดเมื่อ 25 เมษายน 2560 จากนั้นไม่พบเดินทางกลับไทยอีกเลย และทาง สตม. ได้ปลดแบล็กลิสต์ถอนหมายจับ “บอส” ออกจากระบบแล้วตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังได้รับหนังสือถอนหมายจับจาก สน.ทองหล่อ


ขณะที่บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด หรือทีซีพี ผู้ผลิตและทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์กระทิงแดง ชี้แจงผ่านเว็บไซต์ ยืนยันว่านายวรยุทธ อยู่วิทยา ไม่มีความเกี่ยวข้องทางธุรกิจกับกลุ่มธุรกิจทีซีพี โดยนายวรยุทธไม่เคยเป็นผู้ถือหุ้น ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหาร และไม่เคยดำรงตำแหน่งใดๆ ในบริษัทต่างๆ ภายใต้กลุ่มธุรกิจทีซีพีเลย ปัจจุบันผู้ถือหุ้นของบริษัทมีทั้งหมด 7 คน คณะผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น และพนักงานของกลุ่มธุรกิจทีซีพี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหรือกระบวนการต่างๆ ของคดีที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลของนายวรยุทธ.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

ทุจริตยาโรงพยาบาล

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน