กรุงเทพฯ 26 ก.ค.-ประธานกมธ.กม.ยันจะทำหน้าที่แทนประชาชนให้คลายสงสัยคดี”ทายาทกระทิงแดง” เตรียมเชิญตำรวจ
อัยการให้ข้อมูล พร้อมชี้กมธ.ของสนช.ที่เคยทำความเห็นเรื่องนี้ต้องมีส่วนรับผิดชอบ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.
พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน
กล่าวถึงกรณีที่อัยการไม่สั่งฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา” หรือ “บอส” ทายาทของตระกูลที่เป็นเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังรายใหญ่ ว่า
ในฐานะเป็นกรรมาธิการการกฎหมาย ต้องการทำให้ทำความจริงให้ขัดเจน ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการ
ว่าเหตุใดจึงไม่มีคำสั่งแย้ง ซึ่งคดีนี้เป็นที่น่าสงสัยว่าจะมีอะไรไปไม่ชอบมาพากลหรือไม่
เพราะเท่าที่ทราบมามีการร้องขอความเป็นธรรมจากฝั่งผู้ต้องหา ทั้งในกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
และทางกรรมาธิการได้มีความเห็นไปที่อัยการว่าไม่ผิด ดังนั้นเห็นว่าต้องมีเหตุอะไรผิดปกติ
ซึ่งกรรมาธิการฯชุดดังกล่าวต้องรับผิดชอบและมาชี้แจงข้อเท็จจริง ยืนยันไม่ว่ากรรมาธิการในคณะดังกล่าวนั้นจะมีความสนิทสนมกับใคร
หรือ เป็นเครือข่ายใคร ก็ต้องทำให้สิ่งที่ประชาชนคาใจเกิดความกระจ่าง และคิดว่าอาจจะมีคนติดคุกแทนบอส
“ตอนนี้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย
และยิ่งมีคำพูดว่าคุกมีไว้สำหรับขังคนจนเท่านั้นหรือไม่
คนมีเงินสามารถร้องขอความเป็นธรรม สามารถจ้างทนาย
หรือแม้แต่กระทำเรื่องบางเรื่องที่ใช้เงิน เอาผีไปโม่แป้งยังได้
เงินนี่จะทำให้ตำรวจ อัยการทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ไม่ให้ความยุติธรรมกับประชาชนได้หรือไม่
ในฐานะกรรมาธิการจะไปศึกษาและเรียกสำนวนทั้งหมด ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน
ชั้นอัยการ จนการมีคำสั่งไม่ฟ้อง และใครขอความเป็นธรรมบ้าง
เพราะเท่าที่ทราบมามีการขอความเป็นธรรมเฉพาะผู้ต้องหา
แต่ไม่มีการขอความเป็นธรรมให้กับคนตาย
แม้กระทั่งตัวผู้บัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยขอความเป็นธรรมให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาหรือไม่
ปกป้องการศักดิ์ศรีการเป็นตำรวจหรือไม่
แม้กระทั่งรองโฆษกยังไม่มีคำไหนที่จะปกป้องศักดิ์ศรีข้าราชการชั้นผู้น้อย
เพียงแต่ยอมรับคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ” นายสิระ กล่าว.
นายสิระ กล่าวด้วยว่า ตนและกรรมาธิการที่มาจากประชาชนเป็นผู้แทนราษฎรจะถามแทนคนตายจากผู้เกี่ยวข้องหรือตำรวจที่มา
และหากใครมีอะไรที่เป็นข้อมูลมากกว่านี้ก็ขอให้ส่งมา โดยทางกรรมาธิการจะมีการประชุมในวันพุธ
ที่ 29 ก.ค.นี้ โดยจะเชิญตำรวจและอัยการ มาให้ข้อมูล
ทั้งนี้ยืนยันว่ากรรมาธิการกฎหมายฯ มีตัวแทนจากหลายพรรคการเมือง ขอให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถทำให้เกิดความเสมอภาคได้. สำนักข่าวไทย