fbpx

ย้อนรอยคดีดัง “ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง” ขับรถชน ตร.ดับ

24 ก.ค.-คลุกข่าวเล่าประเด็น พาไปย้อนรอยคดีดัง “บอส อยู่วิทยา” ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต 


3 กันยายน 2555 ช่วงเช้ามืด ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ อายุ 47 ปี กำลังขี่รถจักรยานยนต์ ไปตามเส้นทางถนนสุขุมวิท จนกระทั้งมาพบกับรถเฟอร์รารี่สีบรอนซ์เทา พุ่งชนเข้าเต็มแรง เป็นเหตุให้นายตำรวจท่านนี้เสียชีวิต


คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลังขับรถหรูเฟอร์รารี่ ชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตคาที่ บนถนนสุขุมวิท ร่างดาบตำรวจถูกลากไปไกลกว่า 200 เมตร อย่างอนาถ คดีนี้มีเงื่อนงำตั้งแต่นาทีแรก เมื่อตำรวจระดับสารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ ในขณะนั้น นำตัวคนดูแลรถในบ้านมามอบตัว บอกว่าเป็นคนขับชนตำรวจ แต่คดีนี้มีพยานเห็นเหตุการณ์หลายคน ประกอบกับคนดูแลบ้านที่เข้ามามอบตัวให้การสับสน จึงไม่มีใครเชื่อว่าคนดูแลรถเป็นคนขับตัวจริง

จึงเป็นที่มาของการนำกำลังล้อมบ้านอยู่วิทยา หลังพบหลักฐานรอยคราบน้ำมันเลี้ยวเข้าไปในบ้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในสมัยนั้น ต้องเข้าไปเจรจากดดันให้ผู้ต้องหาตัวจริงมอบตัว ในที่สุด “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา จึงรับสารภาพว่าเป็นคนขับรถตัวจริง หลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าผู้ต้องหาไม่อยู่ในสภาพที่มีสติครบถ้วน คือภาพการเดินขึ้นบันไดเพียง 3 ขั้น ที่เดินเซจนเกือบล้ม เขาอ้างว่าไม่สบาย กินยาแก้หวัดเข้าไป จึงมีอาการดังกล่าว


การติดตามดำเนินคดีนายวรยุทธ หลังจากเหตุการณ์นี้ เบื้องต้นถูกตั้ง 5 ข้อหา คือ 

1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอายุความ 15 ปี

2.ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ที่ถูกชน หรือชนแล้วหนี คดีนี้สิ้นสุดอายุความไปเมื่อกันยายน 2560 

3.ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด คดีนี้มีอายุความเพียง 1 ปี 

4.ขับรถโดยขณะมึนเมา 

5.ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งคดีที่ 4 และ 5 หมดอายุความไปแล้ว 

จากวันนั้นถึงวันนี้ จึงเหลือเพียงคดีเดียวเท่านั้น คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังจากนั้นมีการขออนุมัติหมายจับนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังผิดนัดเพื่อนำตัวส่งฟ้องหลายครั้ง

18 ก.ค. 2559 : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปสำนวนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ฐานช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาไม่ถูกดำเนินคดี จากนั้น ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ใน 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร ทำให้นายวรยุทธ มีสถานะเป็น “ผู้ต้องหาหนีหมายจับของศาล” ตั้งแต่ปี 2560 แต่นายบอสได้เดินทางออกนอกประเทศไปก่อนที่หมายจับจะออก การตามล่านายบอส อยู่วิทยา มาลงโทษเป็นเรื่องยากมาก คดีแต่ละจุดสำคัญใช้ห้วงเวลานาน ไม่สามารถจับกุมตัวนายบอสได้ 

ระหว่างที่อยู่ต่างประเทศนายบอส ตกเป็นข่าวในสื่อต่างประเทศหลายครั้ง และมีภาพหลุดออกมาว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศอย่างสุขสบาย มีนักข่าวได้ตามไปถึงหน้าบ้านของนายบอสที่อังกฤษ บันทึกภาพขณะที่นายบอส กำลังจะไขกุญแจเข้าบ้านได้อย่างชัดเจน จากนั้นก็มีบอดี้การ์ดเข้ามาขัดขวางทีมข่าวทีมนี้ไว้

จนกระทั้ง 6 พฤษภาคม 2560 กรมการกงสุลได้เพิกถอนแล้วหนังสือเดินทางทายาทเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ไม่สามารถใช้เดินทางเข้าออกประเทศใดได้ทั่วโลก ส่งผลให้นายบอส ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใด ก็จะกลายเป็นบุคคลเข้าเมืองผิดกฎหมายซึ่งจะถูกดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าเมืองของประเทศนั้นๆ

25 มิถุนายน 2563 ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดตำรวจ สน.ทองหล่อ รวม 7 นายในความผิด “ไม่ร้ายแรง” ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ในจำนวนตำรวจ 7 นายนี้ มีตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว 2 นาย ส่วนอีก 5 นาย ยังคงปฏิบัติหน้าที่

จนกระทั่งวันนี้ นายบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง มาตกเป็นข่าวจากอัยการสูงสุด ได้พิจารณามีคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในทุกข้อกล่าวหา ตามหนังสือที่อ้างถึงและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่แย้งคำสั่งของพนักงานอัยการ คดีนี้จึงเป็นอันสิ้นสุดตามกระบวนการทางกฎหมาย และพนักงานสอบสวน ได้ทำการขออนุมัติศาลเพิกถอนหมายจับในคดีนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ