ทำเนียบฯ 24 ก.ค.- โฆษก ศบค.เผย ผลการตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสกรณีทหารอียิปต์ที่จ.ระยอง ไม่พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด ส่วนข้อเสนอเปิดเรียนตามปกติทั้งหมดทุกโรงเรียน มอบ ก.ศึกษาฯ หาแนวทางต่อ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึง ผลการตรวจหาเชื้อจากผู้สัมผัสกรณีทหารอียิปต์ ที่ จ.ระยอง ว่า ผลตรวจกลุ่มเสี่ยงสูง 12 คน ไม่พบเชื้อทั้งหมด และได้อยู่ในสถานที่กักกันตัวที่รัฐจัดให้ ครบกำหนด 14 วันแล้ว ส่วนกลุ่มที่ความเสี่ยงน้อย จำนวนกว่า 7,000 คน ก็ไม่พบเชื้อทั้งหมดเช่นกัน
ส่วนข้อเสนอของผู้ปกครองที่ให้นักเรียนกลับมาเรียนได้ตามปกติทั้งหมด ภายหลังสถานการณ์ในประเทศไม่มีผู้ติดเชื้อมานานแล้ว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนหลายหมื่นแห่งได้เปิดการเรียนการสอนตามปกติแล้ว แต่ยังมีโรงเรียนอีก 4,532 แห่ง ที่ยังต้องจัดให้เหลื่อมวันและเวลาเรียน เนื่องจากโรงเรียนมีพื้นที่เล็กและจำนวนเด็กนักเรียนมีมาก จึงยังไม่สามารถให้มีการเรียนการสอนตามปกติได้ ศบค.ได้หารือให้กระทรวงศึกษาธิการหาแนวทางวิธีการว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้สามารถเปิดเรียนได้ตามปกติทั้งหมด ซึ่งแต่ละโรงเรียนจะมีบริบทที่แตกต่างกัน และเมื่อกระทรวงได้แนวทางวิธีการแล้ว ก็ให้เสนอกลับมายัง ศบค.โดยเร็ว
ส่วนที่คณะกรรมการกลุ่มการค้าชายแดนและค้าข้ามแดนเสนอเปิดจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนทั้ง 91 จุด นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รายละเอียดเรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยจะต้องเป็นผู้ที่เสนอมาให้ ศบค.เห็นชอบ และจากการหารือ ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปดูความเหมาะสมในแต่ละจุด เพราะนอกเหนือจากที่ต้องพิจารณาทางด้านสาธารณสุขแล้ว ยังต้องดูเรื่องความมั่นคงและเรื่องแรงงานด้วย
สำหรับการอนุญาตให้กลุ่มแรงงานต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านเดินทางเข้าประเทศได้ ที่ขณะนี้มีนายจ้างหาพื้นที่กักตัวให้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านได้แล้วนั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สามารถประสานมายัง ศบค. เพื่อขออนุญาตให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง และจะได้เป็นการนำร่องไปยังกลุ่มนายจ้างอื่นๆ การจัดหาพื้นที่กักตัวให้กลุ่มแรงงานต่างชาติในลักษณะเช่นนี้ เรียกว่า Organizational Quarantine นอกจากจะเป็นพื้นที่จะช่วยควบคุมด้านสาธารณสุขแล้ว ยังเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วย .- สำนักข่าวไทย