สธ.ร่วมส่งเสริมสุขภาพคนวัยทำงาน แบบ New Normal

สธ. 23 ก.ค.-สธ.ร่วมภาคีเครือข่าย ร่วมสร้างสุขภาพคนทำงานฐานวิถีชีวิตใหม่:New Normalให้ปลอดจากโรคโควิด-19 และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สร้างสถานประกอบการต้นแบบ จัดประกวดคลิปวิดีโอฐานวิถีชีวิตใหม่ในสถานประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม กรณีโควิด-19 



วันนี้ (23 ก.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าไทย และนางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานคณะอนุกรรมการป้องกันการระบาดโควิด 19 ร่วมแถลงข่าว โครงการสุขภาวะของคนทำงานด้วย Healthy Living และการประกวดคลิปวิดีโอฐานวิถีชีวิตใหม่ ในสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม กรณีโควิด-19 


นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปัจจุบันไทยมีประชากรวัยทำงาน 37.5 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานในระบบ 17.1 ล้านคน ซึ่งพบว่าในกลุ่มนี้มีปัญหาสุขภาพจากการทำงาน เช่น ออฟฟิศซินโดรม ภาวะเครียด และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการเป็นระยะ รวมทั้งสถานประกอบการต่าง ๆ กลับมาเปิดกิจการ ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ New Normal เพื่อให้มีความปลอดภัย กระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดทำโครงการสุขภาวะของคนทำงานด้วย Healthy Living ขับเคลื่อนการให้ความรู้ด้านต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกายและจิตใจ สร้างองค์กรน่าอยู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน 


นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า ในระยะแรกได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมหอการค้าไทย จัดโครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์สถานประกอบการฐานวิถีชีวิตใหม่ และจัดการประกวดคลิปวิดีโอฐานวิถีชีวิตใหม่ในสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม กรณีโควิด 19 เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการไทย เกิดความตระหนักถึงการดูแลแรงงานให้มีสุขภาพดี และป้องกันโรคให้กับแรงงาน เป็นสถานประกอบการต้นแบบ “สถานประกอบการต้านโควิด 19 ในฐานวิถีชีวิตใหม่ : New Normal” 

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปในวงกว้างทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ เกิดความตื่นตระหนกในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ควบคู่กับการฟื้นฟูประเทศในมิติต่าง ๆ โดยร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งจากข้อมูลการคัดกรองโรคโควิด-19 ของสำนักงานประกันสังคมพบว่า มีแรงงานในระบบป่วยด้วยโรคโควิด-19 จำนวนหนึ่ง กรมควบคุมโรค ได้เสนอมาตรการ แนวทางควบคุมป้องกันโรคสำหรับสถานประกอบการ เพื่อพัฒนาเป็นข้อกำหนด ของ ศบค. สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ 

นอกจากนี้ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง กำหนดนโยบาย มาตรการต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขภาพให้กับแรงงานไทย เพื่อให้สถานประกอบการเกิดความตระหนักถึงการดูแลสุขภาพแรงงาน ให้มีสุขภาพดี ปลอดภัย สามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคโควิด-19 ได้อย่างถูกต้อง โดยสถานประกอบการจะต้องดำเนินการ 3 ระดับ คือเจ้าของกิจการ กำหนดนโยบาย มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ถ่ายทอดไปทุกส่วนในองค์กร ต่อยอดจากงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานประกอบการ, ฝ่ายบริหาร/ ฝ่ายบุคคล/ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ประเมินการติดเชื้อ ความเสี่ยงต่อสุขภาพ และระดับคนทำงาน ทำตามมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ซึ่งกรมควบคุมโรค ได้จัดทำคู่มือประเมินความเสี่ยงในสถานการณ์โควิด สำหรับสถานประกอบการทุกขนาด เพื่อให้สามารถนาไปใช้ในการดูแลสุขภาพคนทำงานได้อย่างเหมาะสม 

ด้านนางศิรินา ปวโรฬารวิทยา กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ร่วมขับเคลื่อนสนับสนุนมาตรการหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 และมาตรการสำหรับการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ข้อปฏิบัติพื้นฐานของสถานประกอบการที่ภาครัฐได้กำหนด พร้อมทั้งประสานเครือข่ายและสมาคมต่างๆ สร้างการมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรการและแนวทางในการป้องกันความเสี่ยงของสถานประกอบการอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งได้จัดทำคู่มือสำหรับสถานประกอบการ 

ซึ่งมีมาตรการและแนวทางปฏิบัติพื้นฐานเพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินกิจการได้อย่างปลอดภัย ขอเชิญชวนสถานประกอบการ ได้เสนอโมเดล รูปแบบ วิธีการ การป้องกันโรคระบาดโควิด-19ให้กับพนักงาน และผู้มาใช้บริการ ในรูปแบบของคลิปวีดีโอ เพื่อส่งประกวด และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสถานประกอบการอื่น ๆ ได้นำไปประยุกต์ใช้ โครงการฯนี้ จะมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคระบาดโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี สร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจและสร้างโอกาสทางธุรกิจของประเทศไทยในยุค New Normal 

ด้านนางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานคณะอนุกรรมการป้องกันการระบาดโควิด-19 กล่าวว่า ในส่วนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้กำหนดแนวทางและมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุข และผลกระทบด้านเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะยาว กำหนดแนวทางการเยียวยาเพื่อช่วยเหลือแก่สมาชิกภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ และแนวทางปฏิบัติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดภายในสถานประกอบการ จัดทำแนวทางการจัดการหลังเกิดการระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับการจัดประกวดคลิปวิดีโอฐานวิถีชีวิตใหม่ในสถานประกอบการฯ นี้ สภาอุตสาหกรรมฯ เห็นว่าเป็นประโยชน์โดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม รวมถึงประชาชนคนไทยทุกคน และส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เกิดความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบนวัตกรรม หรือวิถีการดูแลตนเองในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม และนำพาภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย ให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ การประกวดคลิปฯแบ่งตามสถานประกอบการ 3 ขนาดคือขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็กและจะได้รับเงินรางวัลพร้อมโล่รางวัลประเภทละ 5 รางวัล สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครและส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ที่  www.newnormalcontest.com หรือทาง QR Code ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 สิงหาคม 2563 ประกาศผลการตัดสินในวันที่ 28 สิงหาคม 2563.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]