fbpx

ศาลปกครองสูงสุดยืนไม่รับพิจารณาคดีค่าโง่โฮปเวลล์ใหม่

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. -ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้นไม่รับพิจารณาคดีค่าโง่โฮปเวลล์ใหม่ ทั้งประเด็นศาลพิจารณาข้อเท็จจริงผิดพลาด คดีมีพยานหลักฐานใหม่ รวมทั้งประเด็นคุณสมบัติโฮปเวลล์มีผู้ถือหุ้นต่างชาติขัดกฎหมายไทย โดยศาลวินิจฉัยหน่วยงานรัฐจะต้องทราบก่อนลงนามสัญญาตั้งแต่ต้น


เมื่อเวลา 13.30 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดพร้อมทั้งผู้ร้องคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ซึ่งมีกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นผู้ร้องและมีบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) เป็นผู้ยื่นคัดค้าน โดยวันนี้ศาลได้นัดฟังคำสั่งตามที่ผู้ร้องได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อมีคำสั่งให้ศาลปกครองชั้นต้นที่เคยมีคำสั่งไม่รับพิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา

วันนี้ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้นไม่รับคดีไว้พิจารณาใหม่เช่นเดียวกัน โดยศาลได้บรรยายประเด็นที่ผู้ยื่นคำร้องได้ยื่นต่อศาลขอให้ศาลปกครองชั้นต้นรับพิจารณาคดีใหม่ ทั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องกรณีศาลเคยวินิจฉัยคดีไปก่อนหน้านี้ มีประเด็นที่พิจารณาข้อเท็จจริงผิดพลาดเรื่องมีพยานหลักฐานและประเด็นใหม่ในคดี รวมถึงกรณีที่มีการยื่นข้อมูลว่าบริษัท โฮปเวลล์ฯ มีคุณสมบัติคัดกฎหมายไทยในการเข้าประมูลงาน เนื่องจากตามข้อมูลที่ยื่นกับนายทะเบียน (กรมธุรกิจการค้า) ทำให้โฮปเวลล์มีสถานะเป็นต่างชาติที่เข้าประมูลงาน  ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวศาลพิจารณาเห็นว่าคุณสมบัติโฮปเวลล์จะขัดกฎหมายไทยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่หน่วยงานภาครัฐขณะนั้นจะต้องพิจารณาและทราบก่อนลงนามในสัญญา รวมถึงคณะรัฐมนตรีขณะนั้นก็ต้องทราบข้อมูล เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เป็นผู้ลงนามนั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรี รวมทั้งยังมีหน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานกฤษฎีกา สำนักงานอัยการที่ต้องตรวจร่างสัญญา ดังนั้น หากบริษัท โฮปเวลล์ฯ มีคุณสมบัติขัดต่อกฎหมายทุกหน่วยงานต้องทราบก่อนลงนามสัญญา ดังนั้น จากข้อมูลทั้งหมดจึงเป็นเหตุให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยวันนี้ต้องติดตามประเด็นมูลค่าความเสียหายในคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ 22 เมษายน 2562 ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยให้ รฟท.จ่ายเงินชดเชยค่าเสี่ยหายให้แก่โฮปเวลล์มูลค่ากว่า 11,800 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 180 วัน หลังจากประมวลมูลค่าความเสียหายประมาณ 25,000 ล้านบาท หลังจากนั้นกระทรวงคมนาคมได้มีการตั้งคณะทำงานเจรจากับโฮปเวลล์ก่อนจะตัดสินใจต่อสู้คดีใหม่ โดยการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองชั้นต้นอีกครั้ง เมื่อต่อสู้คดีก็จะส่งผลให้ตัวเลขความเสียหายเฉพาะดอกเบี้ยคดียังเดินต่อ หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนศาลปกคอรงชั้นต้นไม่รับพิจารณาคีดใหม่ ต้องพิจารณาความเสียหายที่ต้องชดเชยเป็นตัวเลขเท่าใด และต้องกลับเข้าสู่การเจรจาระหว่าง รฟท.กับโฮปเวลล์หรือไม่ หรือมีแนวทางต่อสู้ใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ชาวเมียนมาหนีภัยข้ามมาฝั่งไทยต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เมียนมาใช้เฮลิคอปเตอร์ติดปืนกล พร้อมส่ง MiG-29 ถล่มฝ่ายต่อต้าน ทำประชาชนเมียนมาหนีภัย ข้ามมาฝั่งไทย ต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เอกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพราะวิกฤตพลังงาน

อกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ โดยเป็นการประกาศเพราะวิกฤตพลังงานที่ทำให้ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ต้องใช้มาตรการปันส่วนพลังงาน

ฝ่ายต่อต้านรุกหนัก ถล่มทหารเมียนมาตั้งแต่เช้ามืด

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่มทหารเมียนมา ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ตั้งแต่เช้ามืด ทำประชาชนเมียนมา หลบหนีการสู้รบเข้าฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน

“ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง เสียชีวิตแล้ว

“ไพศาล พืชมงคล” โพสต์แสดงความอาลัยการจากไปของ “ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง และบิดาของ “เอ๋-ปารีณา”