ผอ.สทบ.เตรียมแจงสภาพัฒน์ ดันงบฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก

เชียงใหม่ 19 ก.ค. – ผอ.สทบ.เตรียมแจงสภาพัฒน์ ดันงบฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก ผ่าน 4 โครงการหลัก หวังยกระดับชุมชน ทั้งสำรวจข้อมูลพื้นฐาน ยกระดับศักยภาพชุมชนเดิม พัฒนาสินค้า เพิ่มช่องทางตลาด เพื่อสร้างรายได้ชุมชน 


นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เกี่ยวกับการจัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก 24 กรกฎาคมนี้  จากกรอบวงเงินกู้ 400,000 ล้านบาท  ในส่วนของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านฯ  เตรียมชี้แจงแผนลงทุนด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย โครงการแรกเตรียมจ้างลูกหลานสมาชิกกองทุนหมู่บ้านสำรวจชุมชนของตนเอง 3 คนต่อหมู่บ้าน จ่ายค่าจ้างตอบแทน 10,000 บาทต่อคน ออกสำรวจให้ครบทั้ง 79,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ 

ทั้งนี้ เพื่อให้บุตรหลานที่เป็นนักศึกษาลงพื้นที่เป็นเวลา 3 เดือน ในการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึก จำนวนประชากรในหมู่บ้าน  คนพิการ คนชราในชุมชนเป็นอย่างไร การประกอบอาชีพ มีมือถือกี่คน รถยนต์กี่คัน อุปกรณ์ทางการเกษตรอย่างละเอียด ในท้องถิ่นมีศักยภาพอย่างไร มีวัด โรงเรียน แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งควรได้รับการพัฒนาอย่างไร มีปัญหาอะไร ขาดแคลนอะไร ต้องการให้ช่วยเหลืออย่างไร เพื่อเข้าไปพัฒนาได้อย่างตรงจุด ข้อมูลดังกล่าวจะต้องนำมาอัพเดททุกปี นักศึกษา หรือบุตรหลานยังช่วยแนะนำปิดงบการเงินกองทุนหมู่บ้าน ช่วยจัดทำแผนงานพัฒนาท้องถิ่นในอนาคต 


โครงการ 2 คือ แผนพัฒนาศักยภาพกองทุนหมู่บ้าน เมื่อสำรวจข้อมูลแล้ว จะพบว่ากองทุนหมู่บ้านใด มีศักยภาพอย่างไร หัวหน้าชุมชนใดเข้มแข็ง หรือมีปัญหาอย่างไร เช่น ศักยภาพวิถีชีวิต ศิลปะท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยวชุมชน สินค้าชุมชน การผลิตสินค้า เพื่อนำมาพิจารณายกระดับในชุมชนดังกล่าว

โครงการ 3 คือ การพัฒนาสินค้า ทั้งด้านการผลิต การตลาด การสร้างแรงซื้อขายระหว่างสมาชิกกองทุนหมู่บ้านด้วยกันเอง การค้าผ่านตลาดออนไลน์ หลายช่องทาง เมื่อชาวบ้านเริ่มมีรายได้ จากนั้นจะพัฒนาต่อยอดเพิ่มได้อีกหลายอย่าง 

โครงการ 4 คือ การพัฒนาอาชีพเสริม เพราะชาวบ้านมีอาชีพหลักอยู่แล้ว  เช่น ปลูกพืชเศรษฐกิจประจำปี ข้าว มันสำปะหลัง ผลไม้ หรือพืชอื่น ๆ อาชีพบริการ หรืออาชีพอื่น  จากนั้นช่วงเวลาว่างไม่มีรายได้ จึงมาสร้างอาชีพเสริมหลากหลายประเภท จึงหวังจัดสรรเงินให้กับกองทุนหมู่บ้าน 300,000 บาทต่อกองทุน และจัดสรรให้บางส่วน 50,000 บาท นำสมาชิกหมู่บ้านออกไปดูงานกองทุนที่ประสบความสำเร็จ เพื่อนำมาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาชุมชนของตนเอง 


นอกจากนี้ สทบ.ยังเตรียมจัดรูปแบบการขนส่งชุมชนผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์   “คิวหมู่บ้าน” นำร่องทดลองชุมชนคลองนาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เพื่อบริการขนส่งชุมชนในท้องถิ่น เพื่อให้ชาวบ้านใครมีรถขนส่ง สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกบริการเหมือนกับ Grab แต่บริการครั้งนี้ทำเพื่อบริการในชุมชน โดยเจ้าของรถได้รับค่าธรรมเนียมขนส่ง หากใครต้องการส่งสินค้า หรือรับสินค้า ให้กดเข้าไปใน ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์   “คิวหมู่บ้าน” เจ้าของรถในชุมชนใครสะดวกกดรับบริการไปส่งของได้ เตรียมชี้แจงรายละเอียดการให้บริการวันจันทร์นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง