อธิบดี พช.เร่งเพิ่มทักษะบุคลากรท้องถิ่นขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19

นครนายก 17 ก.ค.- อธิบดี พช. ลงพื้นที่นครนายกติวเข้มบุคลากร ขับเคลื่อนโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบโควิด-19 เน้นย้ำ “พัฒนาคือสร้างสรรค์” ต้องร่วมมือร่วมใจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมการขับเคลื่อนโครงการภายใต้แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 19 ก.ค. 2563 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก โดยมีผู้บริหารและพัฒนาชุมชน จากทั่วประเทศเข้าร่วมจำนวน 120 คน โดยมีภาคีเครือข่ายที่ร่วมขับเคลื่อนได้แก่ รศ. วรวรรณ โรจนไพบูลย์  ผศ.พิเชษฐ์  โสวิทยสกุล จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) คุณสัณห์จุฑา จิราธิวัฒน์ ประธานมูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้ำ หรือ Earth Save เข้าร่วมประชุมพูดคุย


นายสุทธิพงษ์ กล่าวระหว่างการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมไทยด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเข้มแข็ง” ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตรวมทั้งการเกิดวิกฤติโควิด-19 เราจำเป็นต้องช่วยกันฟื้นฟูประเทศ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การเมือง สิ่งแวดล้อมและด้านอื่นๆ ทั้งหลายทั้งปวงซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมการพัฒนาชุมชนของเราที่ก่อตั้งมา 58 ปี มีภารกิจหน้าที่ของกรมฯ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีทั้งบุคลากรของกรมทุกคน รวมทั้งภาคีเครือข่าย ผู้นำ อช. สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผู้นำท้องถิ่น ข้าราชการ กระทรวง กรมต่างๆ ว่า ต้องมีภารกิจเหมือนชื่อกรม นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2505 จนถึงปัจจุบันนี้เป้าหมายกรมการพัฒนาชุมชนไม่เคยเปลี่ยน เรามีเป้าหมายที่แน่วแน่ในการสนับสนุนส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนได้มีศักยภาพและมีความสามารถในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวให้ดีและมีความสุข 


ทั้งนี้ ในปี 2508 เมื่อครั้งเสด็จฯ จ.สกลนคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับกรมการพัฒนาชุมชน สรุปใจความสำคัญได้ว่า พระองค์ท่านรู้ว่าพวกเราเหนื่อยยากลำบากเพราะต้องการช่วยให้ชาวบ้านสามารถทำมาหากินได้อย่างปกติสุข เลี้ยงครอบครัวได้ดี มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งยังเน้นย้ำเรื่องการตลาดที่ต้องทำให้พี่น้องประชาชนทำมาหากินได้ สามารถแจกจ่ายกระจายสินค้าของตัวเองได้ และที่ยิ่งใหญ่สำคัญที่สุด คือ งานที่กรมการพัฒนาชุมชนทำ เป็นงานที่ทำให้ชาติมั่นคง ซึ่งหมายความว่าพระองค์ท่านฝากความหวังไว้ที่เรา และยังได้พระราชทานคำขวัญ “พัฒนาคือสร้างสรรค์” ดังนั้นเมื่อพวกเราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน เราต้องทำหน้าที่ของเรา ทำให้ประเทศชาติและพี่น้องประชาชนของเรามีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความทุกข์น้อยลง และต้องช่วยกันทำใจตัวเองและหาคำตอบให้ตัวเองว่าเรามาเป็นข้าราชการเพราะเราอยากทำสิ่งที่ดีให้กับประเทศชาติของเราซึ่งหมายถึงพี่น้องประชาชนทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงท่องจำ แต่ต้องลงมือทำด้วยแนวทางประชารัฐซึ่งประกอบด้วย 7 ภาคี ได้แก่ ข้าราชการ นักวิชาการ ประชาชน เอกชน ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และศาสนา คือทุกภาคส่วนเกี่ยวข้องกันทั้งหมด ต้องช่วยกันเพราะหากทำเพียงลำพังกำลังย่อมมีน้อย 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกำหนดความหมายของงานมหาดไทยให้มีหน้าที่อย่างชัดเจนว่า “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” เนื้องานทั้งหมดในการทำภารกิจบำบัดทุกข์บำรุงสุขอยู่ที่เรา เราเป็นศูนย์กลางมีคลังข้อมูลของศักยภาพในการพัฒนา มีฐานข้อมูล จปฐ. มีข้อมูลของ OTOP, OTOP นวัตวิถี เรื่องของกองทุน เรื่องของลูกหนี้ ทั้งหมดอยู่ในมือเราหมด ต้องถามตัวเองให้ชัดว่าเรามาทำงานรับราชการอยู่ที่กรมการพัฒนาชุมชนเพื่ออะไร ต้องทำงานให้เกิดความภาคภูมิใจ เพราะเราเป็นคนกลางที่จะทำให้คนมีความสุข มีความเจริญ มีการพัฒนา และมีคุณภาพชีวิตที่ดี และที่สำคัญเราเป็นตัวแทนของกระทรวงมหาดไทยในการปฏิบัติภารกิจบำบัดทุกข์บำรุงสุข ภารกิจเหล่านี้จะไม่สำเร็จถ้าเราไม่สร้างและเริ่มที่จิตใจของเรา หากให้สรุปงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขแล้วเป็นเรื่องใหญ่มากเป็นจักรวาลของชีวิตข้าราชการ ขณะเดียวกันการบำบัดทุกข์บำรุงสุขก็เป็นเนื้องานหลักของกรมการพัฒนาชุมชนทั้งสิ้น

“ในวันนี้เราอยากให้พวกเราเข้าใจในเนื้องาน เข้าใจรายละเอียด เข้าใจโครงการ เรายังไม่ต้องเก่งเรื่องขุดดินปลูกพืชปลูกผัก เพราะเราจะต้องไปอำนวยการต้องไปเป็นแม่ทัพ มีหน้าที่ทั้งถ่ายทอดให้แก่พัฒนาการอำเภอ พัฒนากร ผู้นำพื้นที่ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดไปจนถึงนายก อบต. ชาวบ้าน ต้องคอยไปช่วยอำนวยการทำให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อให้คนในสังคมเขารู้และเข้าใจเป็นไปในแนวทางเดียวกับเรา ต้องกำกับดูแลโครงการให้เดินหน้าต่อไปให้ได้ และให้พี่น้องประชาชนชาวบ้านได้ประโยชน์เต็มที่ และกรมการพัฒนาชุมชนยังเป็นกรมเดียวที่มีศูนย์อำนวยการด้านการศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์พระราชากว่า 4,400 โครงการ ดังนั้นจึงขอฝากทุกคนโดยเฉพาะโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ภายใต้โครงการภายใต้แผนงานสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ขอขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ได้ตั้งใจเดินทางมา และตั้งใจที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน ขอให้พวกเราช่วยกันขับเคลื่อนงานนี้ เพื่ออนาคตของกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อความสุขความมั่นคงของพี่น้องประชาชน และของประเทศไทย” อธิบดี พช. กล่าวย้ำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.4 กำชับเร่งสืบจับมือวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี

ปัตตานี 20 มิ.ย. – แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี กำชับเร่งสืบจับผู้ก่อเหตุ เพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดฯ หลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ เข้าตรวจสอบความเสียหาย รวมถึงติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี พร้อมกำชับตำรวจและฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ และปรับแผนให้รัดกุมยิ่งขึ้น ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดปัตตานี หลังเกิดเหตุระเบิด 3 ลูก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 มิ.ย.68) พบว่า เจ้าของร้านต่างเร่งซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้กลับมาเปิดขายได้อีกครั้ง และพบว่าหลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ หนึ่งในนั้นคือ ร้านขายไก่ทอด ไก่ย่าง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ตัดสินใจเดินทางกลับ จ.ตรัง โดยบอกว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตั้งแต่ขายมา ไม่ว่าจะที่ จ.ยะลา หรือนราธิวาส จึงรู้สึกกลัว แม้อยากทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่รักชีวิตมากกว่า. – สำนักข่าวไทย

เขมรป่วน! นำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 20 มิ.ย. – กัมพูชาป่วนไม่เลิก ล่าสุดนำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไล่นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับ ทหารและฝ่ายปกครองต้องเตือนให้หยุด และให้กลับลงไปทันที นี่เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองของไทย เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาและพระสงฆ์กัมพูชา ประมาณ 15 รูป ซึ่งตอนแรกทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.68) แต่ต่อมากลับพากันมายืนที่จุดจีพีเอส ขวางประตูทางเข้าตัวปราสาทตาเมือนธม และพูดกับคนไทยที่มาเที่ยวชมปราสาท ในลักษณะจะไม่ให้เข้า และข้ามหลักจีพีเอสไป ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พนมดงรัก ที่ปฏิบัติการที่ปราสาทตาเมือนธม เห็นเข้า จึงรีบเข้าไปแจ้งเตือนและให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยมีทหารฝ่ายกัมพูชาเข้ามาร่วมชี้แจงด้วย ก่อนจะพาชายคนดังกล่าวพร้อมคณะกลับลงไปฝั่งกัมพูชาทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกัมพูชาใช้ฐานปฏิบัติการทหารที่อยู่ตรงข้ามกับปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดรวมผู้คนและพระสงฆ์ที่เกณฑ์มา ให้มารวมตัวกัน โดยทหารกัมพูชาที่มาอำนวยความสะดวกบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะเป็นผู้รายงานว่า ฝั่งไทยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นมาเยอะหรือไม่ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบและจัดคนขึ้นมาที่ตัวปราสาท แล้วก็มาป่วน พยายามสร้างกระแสยั่วยุฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทบ.แจงเหตุมวลชนเขมรบุกร้องเพลงบนปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ การยั่วยุลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา […]

ไมค์โขกหัวนายกฯ

นายกฯ โพสต์แจง “ไมค์โขกศีรษะ” นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- นายกฯ อิ๊งค์ แจงไมค์โขกศีรษะ นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ บอกหน้างานเบียดกันมาก โดนไม่แรง พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านสตอรี่ไอจี กรณีมีไมค์ของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งโดนศรีษะของนายกรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และนายกรัฐมนตรีได้อุทาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า วันนี้ที่มีข่าวเรื่องไมโครโฟนโขกศีรษะ

รองเลขาธิการนายกฯ แจ้งความดำเนินคดี “ฮุนเซน”

กทม. 20 มิ.ย.-“สมคิด” รองเลขาธิการนายกฯ เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดี “ฮุนเซน” กรณีคลิปเสียงหลุด ยันไม่ได้แก้เกี้ยวให้ “แพทองธาร” ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุนเซน กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ความยาว 17.6 วินาที ที่หลุดออกมาจากฝั่งเขา จนสร้างความแตกแยก จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง ยืนยันไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ และไม่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่าจะมาแจ้งความ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ยืนยันไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร เป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากทำลายความมั่นคง ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน สืบค้นแหล่งที่มาของต้นโพสต์ หารือกับอัยการสูงสุดและประสานสถานทูตประเทศนั้น เพื่อให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ไม่อยากให้คาดการณ์.-สำนักข่าวไทย