“นพ.เรวัต” ตั้งกระทู้ถามสด เหตุรัฐปล่อยทหารอียิปต์ติดโควิด-19 เข้าประเทศ

รัฐสภา 15 ก.ค.”นพ.เรวัต” ตั้งกระทู้ถามสด เหตุรัฐปล่อยทหารอียิปต์ติดโควิด-19 เข้าประเทศ เสี่ยงติดเชื้อรอบใหม่ อ้างมีคนไทยติดเชื้อรายแรกเพิ่มแล้วที่ระยอง ชี้รัฐ 2 มาตรฐาน จี้นายกฯ แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ด้าน “สาธิต”  แจงแทนนายกฯ ขอโทษแล้ว พร้อมปรับปรุงการทำงาน ชี้ทหารอียิปต์ละเมิดข้อตกลงออกนอกพื้นที่ เร่งลงพื้นที่ตรวจกลุ่มเสี่ยง


นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ตั้งกระทู้ถามสดกรณีทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 เข้าประเทศไทยโดยไม่มีการกักตัว ทั้งที่ไม่มีภารกิจใด ๆ ไม่ได้รับเชิญจากรัฐบาล เพียงแต่แวะระหว่างไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปากีสถาน และจีน โดยเข้าโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ซึ่งไม่ใช่โรงแรมที่เป็นสถานกักตัวของรัฐ หรือ State Quarantine และยังไปห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีโอกาสแพร่ระบาดโรคระลอกใหม่ได้ จนประชาชนเกิดความโกรธว่าทำไมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค.ประกาศว่าการ์ดต้องไม่ตก แต่ทหารอียิปต์กลับหลุดเข้าประเทศ ทั้งที่ประชาชนยอมปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ จนเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ จีดีพีลดลงกว่าร้อยละ 7 หนี้สาธารณะมีโอกาสสูงถึง 7 ล้านล้านบาท หากเกิดการระบาดอีก ทุกอย่างล้มละลายแน่นอน

นพ.เรวัต กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเด็กหญิงคณะทูตประเทศซูดาน ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเข้าสถานกักตัวของรัฐ แต่ให้กักตัวเองในคอนโด ทั้งที่คนไทยต้องกักตัวก่อนเข้าประเทศ 14 วัน ซึ่งเกิดคำถามว่ารัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมการกักตัวได้หรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 กรณี ชี้ว่ารัฐและ ศบค.มีความสะเพร่าประมาท ปฏิบัติต่อ VIP ต่างชาติกับคนไทยเหมือนเป็นพลเมืองชั้น 2 เช่นกรณีลูกสาวนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา ต้องเข้าสถานกักตัวของรัฐ ซึ่งเป็นมาตรการที่ต้องปฏิบัติ แต่ทหารอียิปต์กับลูกทูตซูดานกลับต่างกัน


นพ.เรวัต กล่าวว่า ความผิดพลาดและไม่จริงใจของรัฐและ ศบค. ทำให้ประชาชนโกรธแค้น ยากที่จะทำใจ จึงมีคำถามว่าทำไม ศบค. ถึงการ์ดตกเสียเอง ปล่อยให้ผู้ติดเชื้อที่มีอภิสิทธิ์เข้ามา อาจทำให้เกิดการติดเชื้ออีกครั้ง และในที่สุดแล้ว พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไม่ได้สกัดการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพราะ VIP ต่างชาติหลุดรอดเข้ามา พร้อมระบุว่า มีคนไทยติดเชื้อโควิด 1 คนแล้วที่จังหวัดระยอง

“รัฐบาลและ ศบค.จะทบทวนหรือยกเลิกข้อกำหนดต่าง ๆ ที่ออกโดย พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ถือเป็นอันตรายต่อคนไทยหรือไม่ ขณะนี้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นพลเมืองชั้น 2 ในประเทศของตัวเอง คับแค้นใจที่ได้รับการปฏิบัติไม่เท่าเทียมตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คำถามคือ นายกฯ ในฐานะผู้นำประเทศ และผู้อำนวยการ ศบค.จะแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดล้มเหลวนี้อย่างไร ต้องไม่เพียงแต่กล่าวคำว่าขอโทษ ท่านสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีเหมือนผู้นำในอารยประเทศทั้งหลายที่เมื่อบริหารงานผิดพลาด เกิดความเสียหายร้ายแรง เขาแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ท่านจะลาออกหรือไม่” นพ.เรวัต กล่าว

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ตอบกระทู้ถามสด ชี้แจงว่า ความคืบหน้าหลังจากลงพื้นที่จังหวัดระยอง เมื่อวานนี้  (14 ก.ค.) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด มีช่วงเวลาสำคัญ โดยกลุ่มทหารอียิปต์เข้าพักโรงแรมดีวารี จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม และเช้าวันที่ 9 กรกฎาคมเดินทางไปประเทศจีนและกลับมาเวลา 02.00 น. และวันที่ 10 กรกฎาคม เวลา 11.30 น. ออกจากโรงแรมไป 2 กลุ่ม โดยกลุ่ม 4 คน ไปห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ส่วนอีกกลุ่ม 27 คนไปห้างแหลมทอง โดยมีผู้ติดเชื้อ 1 คน แต่พบว่าใส่หน้ากากตลอดเวลา ไม่มีการรับประทานอาหาร หรือซื้อของ และกลับโรงแรมเวลาประมาณ 14.00-15.00 น. ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงน้อย โดยกรมควบคุมโรคนำรถพระราชทานตรวจเชิงรุก มี 9 รายที่ความเสี่ยงสูง โดยคนขับรถส่งทหารอียิปต์ผลออกแล้วว่าไม่ติดเชื้อ และกลุ่มอื่น ๆ  มีการตรวจแล้ว จำนวนกว่าพันคน โดยจะแจ้งผลต่อไป ยืนยันว่าการสอบสวนโรคโปร่งใส ไม่มีการปกปิด ไม่มีการบิดเบือนข้อมูล  ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงและกล่าวคำขอโทษเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว


“กลุ่มทหารอียิปต์เป็นกลุ่มที่เรียกว่าผู้ควบคุมอากาศยานและเจ้าหน้าที่อากาศยาน หรือนักบินกับลูกเรือ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องตรวจ และสามารถเข้าพักในพื้นที่ที่จัดให้ เช่น สุวรรณภูมิจัดโรงแรมโนโวเทลให้พัก แต่กรณีลงสนามบินอู่ตะเภา มีการจ้างเอเจนซี่จากสถานทูตฯ พาไปโรงแรมที่เข้าพัก จึงเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริงที่ปรากฎ แต่จะต้องมีการถอดบทเรียนเกี่ยวกับการประสานงานหน้างานว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ไม่มีพลเมืองชั้น 2 แต่ก็เข้าใจสถานการณ์และความรู้สึกประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีประกาศที่จะยกเลิกบางกลุ่มอภิสิทธิ์ ยกเลิกเที่ยวบินจากประเทศดังกล่าว อยากให้มองวิกฤติเป็นโอกาสว่าจะต้องบริหารสถานการณ์โควิด-19 และฟื้นเศรษฐกิจให้ได้ แม้หน้างานมีความอ่อนล้าไปบ้าง แต่ย้ำว่าต้องมีระบบที่ควบคุมโควิด-19 ให้ได้ เพราะไม่มีทางที่ตัวเลขจะเป็นศูนย์ตลอด หากยังไม่มีวัคซีน” นายสาธิต กล่าว

ส่วนการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายสาธิต กล่าวว่า ไม่สามารถตอบแทนนายกรัฐมนตรีได้ รวมถึงการแสดงความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีก็เป็นปัญหาเฉพาะตัว แต่ชี้แจงว่ากรณีทหารอียิปต์ ถือเป็นข้อยกเว้นตามประกาศกำหนดข้อ 5  กลุ่มผู้ควบคุมและเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ ไม่ต้องเข้าสถานกักตัวของรัฐ แต่ให้อยู่ในพื้นที่ตามข้อกำหนด แต่ปัญหาคือทหารกลุ่มนี้ละเมิดข้อกำหนด ซึ่งตามคลิปที่ออกมา ทหารอียิปต์ก็ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจ แต่สุดท้ายประสานไปสถานทูตอียิปต์จึงยอมตรวจ และจึงทราบวันที่ 10 กรกฎาคม มีทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสถานทูตอียิปต์ก็แสดงความเสียใจ ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็จะไปปรับปรุงแก้ไข.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย