นนทบุรี 9 ก.ค. – อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเผยยอดค้าชายแดนจากผลกระทบโควิด-19 ช่วง 5 เดือน มูลค่า 524,000 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.71 แต่มั่นใจช่วงหลังของปีนี้เมื่อโควิดเบาบางลงค้าชายแดนจะกลับมาคึกคักดีขึ้น
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยปี 2563 (ม.ค. – พ.ค.) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 524,357 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 305,725 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.03 และการนำเข้า 218,632 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.65 ทำให้ไทยเกินดุลการค้า 87,093 ล้านบาท
สำหรับการค้าชายแดน 4 ประเทศ ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2563 พบว่า มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับ 1 มีมูลค่าการค้ารวม 87,854 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32.43 รองลงมา คือ สปป.ลาว มูลค่า 77,172 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.59 เมียนมา มูลค่า 73,740 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.96 และกัมพูชา มูลค่า 70,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.20 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าปศุสัตว์อื่น ๆ และสินค้าแร่และเชื้อเพลิงอื่น ๆ เมียนมา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมันดีเซล และปูนซีเมนต์ และกัมพูชา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สินค้าปศุสัตว์ และรถยนต์นั่ง เป็นต้น
ทั้งนี้ การค้าผ่านแดนในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2563 พบว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 มีมูลค่าการค้ารวม 90,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.74 โดยสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลไม้สดฯ ยางพารา และเครื่องคอมพิวเตอร์ฯ รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 36,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.83 โดยสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องยนต์สันดาปฯ เครื่องคอมพิวเตอร์ฯ และแผงวงจรไฟฟ้า เวียดนาม มูลค่า 24,697 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 26.71โดยสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำฯ ผ้าผืนและด้าย และรถยนต์ฯ ประเทศอื่นๆ มูลค่า 63,180 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.85 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนทั่วประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ส่งผลให้มีการปิดจุดผ่านแดนของไทยทั่วประเทศทั้งหมด จาก 97 จุด เหลือเพียง 28 จุด ซึ่งกรมฯ ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่านแดนเพิ่ม 9 จุด ดังนั้น เมื่อปัญหาโควิด-19 เบาบางลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้น่าจะทำให้การค้าชายแดนกลับมาดีขึ้นได้ และเชื่อว่าน่าจะเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต เนื่องจากความต้องการสินค้าไทยในประเทศเพื่อนบ้านยังมีความต้องการสูงขึ้น โดยจากเป้าหมายการค้าชายแดนที่เคยตั้งไว้ปี 2563 น่าจะมีมูลค่าการค้า 1.5 ล้านล้านบาท แต่จากโควิดทำให้มูลค่าการค้าชายแดนน่าจะได้มูลค่าเกิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ แต่หากด่านทุกจุดเปิดเต็มที่มูลค่าการค้าชายแดนน่าจะดีขึ้นได้
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการเปิดจุดผ่านแดน หลังจากผ่อนคลายจากปัญหาโควิด วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 จำนวน 12 จุด ไทย-มาเลเซีย 4 จุด ได้แก่ 1.จุดผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา 2.จุดผ่านแดนถาวรด่านบูเก๊ะตา จ.นราธิวาส 3.จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา 4.จุดผ่านแดนถาวรด่านตากใบ จ.นราธิวาด, ไทย-เมียนมา 6 จุด 1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี 2.จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสินขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3.จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน 4.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยผึ้ง จ.แม่ฮ่องสอน 5. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแม่สามแสบ จ.แม่ฮ่องสอน 6.จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) จ.กาญจนบุรี, ไทย-สปป.ลาว 1 จุด 1.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านใหม่ชายแดน อ.สองแคว จ.น่าน และไทย-กัมพูชา 1 จุด จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี.-สำนักข่าวไทย