เสนอรัฐปรับแผนซื้อโซลาร์ภาคประชาชนอัตราเดียวกับราคา กฟผ.

กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – เอสพีซีจี ผู้ประกอบการธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทน เสนอรัฐปรับแผนสนับสนุนโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนให้เพิ่มเงินอุดหนุนมากกว่าอัตราซื้อไฟฟ้า กฟผ. ยอมรับโควิด-19 กระทบแผนติดตั้งโซลาร์ภาคอุตฯ แนะรัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะมีโอกาสฉุดจีดีพีไทยปีนี้หดตัวกว่าร้อยละ 10   



นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอสพีซีจี (SPCG) กล่าวว่า เห็นด้วยที่กระทรวงพลังงานกำลังปรับปรุงแผนการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านประชาชน หรือโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชน เพราะที่ผ่านมาอัตราการรับซื้อโดยให้อัตราอุดหนุน FIT เพียง 1.68 บาท/หน่วย ไม่จูงใจ จะเห็นได้ว่าปี 2562 ประกาศรับซื้อ 100 เมกะวัตต์ ประชาชนเข้าร่วมโครงการไม่ถึง 2 เมกะวัตต์ โดยแนวทางการปรับควรกำหนดอัตราอุดหนุนรับซื้อที่มากกว่าราคาที่การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายซื้อจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ประมาณ 3 บาท/หน่วย ซึ่งเรื่องนี้มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (FT) ของประชาชนทั่วไป เพราะปริมาณรับซื้อแต่ละปีน้อยมาก เมื่อเทียบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศ โดยร่างปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (พีดีพี 2018 ร่างฉบับปรับปรุง) ที่กำลังเตรียมเสนอ ครม.นั้น ระบุจะรับซื้อ 50 เมกะวัตต์/ปี เป็นเวลา 5 ปี และต้องส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานให้การรับซื้อไฟฟ้า ส่วนเกินในระบบ net metering ไม่เกิดปัญหา


“อัตรารับซื้อจากโซลาร์ภาคประชาชนควรซื้อในอัตราเท่าหรือมากกว่าอัตราที่ภาคประชาชนจ่ายค่าไฟฟ้า ไม่กระทบค่าไฟฟ้าโดยรวม เพราะไม่ได้ซื้อจำนวนมาก  และยังเป็นการสนับสนุนให้เจ้าของบ้านครัวเรือน มาลงทุนช่วยประเทศช่วยสร้างมั่นคงพลังงานสะอาดจากหลังคาที่ไม่ได้มาจากโครงการขนาดใหญ่ ที่มาจากเขื่อน หรือแก๊สที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างไฟฟ้าจากบ้านของเราเอง จึงควรเป็นอัตราจูงใจ” นางวันดี กล่าว 

นางวันดี ยอมรับว่า ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 กระทบเศรษฐกิจ ทำให้ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมที่จะติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปชะลอการตัดสินใจลงทุน บริษัทจึงปรับแผนลงทุนเหมือนกับบริษัททั่วไป โดยลดค่าใช้จ่ายปีนี้ประมาณ 300 ล้านบาท พร้อมกับดูแลเสถียรภาพการผลิตไฟฟ้า เพื่อรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิประมาณร้อยละ 51 เหมือนปัจจุบัน ปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้เหลือไม่ต่ำกว่า 5,500 ล้านบาท จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ระดับ 6,700 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 5,250 ล้านบาท  โดยส่วนตัวประเมินว่าโควิด-19 มีโอกาสที่จะฉุดให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยปีนี้ติดลบถึงร้อยละ 10 และหากรัฐบาลไม่ออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมก็อาจจะหดตัวเป็นร้อยละ 12 โดยประมาณการดังกล่าวนับเป็นการมองเศรษฐกิจไทยหดตัวมากกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินไว้ที่ร้อยละ 8.1 ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ในแง่การลงทุนบริษัทยังเดินหน้าตามแผนทั้งในและต่างประเทศ เพราะโอกาสจากผลกระทบทางเศรษฐกิจก็มีมากขึ้นจากที่มีหลายกิจการขายหุ้นหรือโครงการลงทุน เช่น โครงการโซลาร์ในญี่ปุ่น ดังนั้น บริษัทได้เพิ่มเป้าหมายจะใช้เงินลงทุนจาก 4,000 ล้านบาท เป็นไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยในส่วนนี้ยังเป็นการรองรับดีลร่วมทุนธุรกิจรูปแบบใหม่เป็นนวัตกรรม คาดว่าจะเปิดตัวในช่วง 2 เดือนข้างหน้า ล่าสุดบริษัทได้เจรจาร่วมทุนโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นอีก 65 เมกะวัตต์ ทำให้คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือเกิน 500 เมกะวัตต์ จากระดับ 360-370 เมกะวัตต์ในปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายระยะยาวปี 2580 จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์) เพิ่มเป็น 3,000 เมกะวัตต์  พร้อมกันนี้เตรียมรุกงานติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟ) ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ภายใต้รูปแบบ Private PPA ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณงานในมือที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 10-20 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่า 400-500 ล้านบาท


ปัจจุบัน SPCG มีกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ โครงการโซลาร์ฟาร์ม แบ่งเป็น โครงการในไทย 36 แห่ง กำลังการผลิตรวม 260 เมกะวัตต์ ,โซลาร์ฟาร์ม Tottori Yonago Mega Solar ในญี่ปุ่น กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ที่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว และโซลาร์ฟาร์ม Ukujima Mega Solar Project ในญี่ปุ่น กำลังการผลิต 480 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าจะเสร็จปี 2566, โครงการโซลาร์รูฟ ภายใต้บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด (SPR)  ซึ่งเน้นโซลาร์รูฟบนที่พักอาศัยและตลาดเชิงพาณิชย์ ติดตั้งไปกว่า 20 เมกะวัตต์ และยังมีบริษัทร่วมทุน MSEK Power โดยมี Mitsubishi UFJ Lease & Finance Company Limited (MUL) บริษัทการเงินใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ร้อยละ 58 โดย MSEK จะรุกตลาดกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรม ปัจจุบันมีงานในมือรวม 15-20 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่า 400-500 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะได้งานมากขึ้น เพราะ MUL มีฐานลูกค้าญี่ปุ่นในมือค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันการรับงานอาจชะลอไปบ้างหลังเผชิญสถานการณ์โควิด นอกจากนี้ SPCG ยังมีบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่ายและผู้ให้บริการ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) อย่างเป็นทางการ ของ SMA จากประเทศเยอรมนี และบริษัท สตีลรูฟ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านหลังคาเหล็กชั้นนำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย