พช.เดินหน้าสร้างชุมชนยั่งยืนทางอาหารตามแนวพระราชดำริ

พระนครศรีอยุธยา 29 มิ.ย.- อธิบดี พช. เป็นประธานพิธีทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล อาคารศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ที่ทำการ อบต.พระยาบันลือ เชิญชวนปลูกผักสวนครัวต่อเฟส 2 สร้างความมั่นคงทางอาหารชุมชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืน





วันนี้ (29 มิ.ย.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล อาคารศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า  กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลพระยาบันลือ อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายจักรกฤษณ์ ทองทับ เจ้าหน้าที่งานในพระองค์  นายชวลิต ธูปตาก้อง ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน  นางสาวเรไร แย้มสะอาด ผู้อำนวยการสำนักเครือข่ายและการมีส่วนร่วม นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายชนาธิป โคกมณี นายอำเภอลาดบัวหลวง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธี โดยมีอาจารย์โสภณ สืบสม ประธานมูลนิธิบ้านจิตธรรมดี ทำพิธีบวงสรวง และอาจารย์ประดิษฐ์ รัตนโกมล ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีดุอา 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ และประชาชน ชาวตำบลพระยาบันลือ ได้พร้อมใจกันจัดงานพิธีทำบุญอาคารศูนย์การเรียนรู้  การพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อช่วยเหลือประชาชนซึ่งมีฐานะยากจนในพื้นที่ตำบลพระยาบันลือ 


“กรมการพัฒนาชุมชนได้น้อมนำแนวทางที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระราชทานไว้ เพื่อพัฒนาอาชีพประชาชนอย่างยั่งยืน โดยผมได้นำทีมงานจากกรมการพัฒนาชุมชน ไปศึกษาเรียนรู้ที่ อบต.โก่งธนู จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นต้นแบบในการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ที่พระองค์พระราชทานผ่านมูลนิธิชัยพัฒนา และศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ อีกทั้งยังทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมด้วยพระองค์เอง ผมจึงขอเชิญชวนให้พี่น้องทุกคนร่วมกันปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร โดยในขณะนี้เราดำเนินการมาได้ 89 วัน และมีเปอร์เซ็นต์การร่วมปลูกผักทั้งหมดคือ 95.6 % จาก 12,976,932 ครัวเรือนทั่วประเทศ ทำให้เรามีอาหารปลอดภัยไว้รับประทาน อาหารที่ไม่มีสารพิษไม่มียาฆ่าแมลง และทำให้ครัวเรือนประหยัดรายจ่าย ซึ่งผู้ที่ทำจะต้องทำด้วยจิตใตที่แน่วแน่ มุ่งมั่น และเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ โดยกรมการพัฒนาชุมชนชักชวนผู้นำในแต่ละจังหวัด รวมถึงข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน มาช่วยกันปลูกและช่วยเชิญชวนพี่น้องประชาชน ซึ่งปลูกกันได้ถึงครัวเรือนละกว่า 20 ประเภท และความสำเร็จนี้ก็เกิดขึ้นได้เพราะเราทุกคนร่วมมือกัน โดยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา นอกจากจะสามารถนำผลผลิตมารับประทานในครัวเรือนแล้ว ยังแปรเป็นรายได้ได้ด้วย อาทิ ชาวตำบลโก่งธนู ที่ได้นำพืชผักสวนครัวจำนวนมาก ไปขายให้ผู้คนในอำเภอเมืองจังหวัดลพบุรี เป็นเครื่องยืนยันว่าถ้าปลูกกันทุกบ้าน ก็สามารถนำมาแบ่งปัน ขาย และแปรรูปได้” 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นเดือนมหามงคล เป็นเดือนเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 กรมการพัฒนาชุมชนขอความกรุณาทุกภาคส่วนของจังหวัด ช่วยกันขับเคลื่อนให้โครงการปลูกพืชผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ให้มีความมั่นคงอย่างแท้จริง ซึ่งการจะมีความมั่นคงอย่างแท้จริง ต้องมีการทำอย่างต่อเนื่อง เพราะการต่อเนื่องจะกลายเป็นพลัง และขอให้ช่วยกันรณรงค์ต่อไป ซึ่งเป็นเฟสที่ 2 ของโครงการปลูกผักสวนครัวนี้

“เฟสที่ 2 นี้ มีการดำเนินงานเพิ่มเติม อันดับแรก คือ ปลูกผักสวนครัวจาก 5 อย่างเป็น 10 อย่าง อันดับ 2 คือ ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมสีเขียว คือร่วมการแยกขยะ ทำบ้านเมืองของเราให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี นำขยะเปียกไปทำปุ๋ยหมัก นำปุ๋ยหมักนั้นไปใส่ต้นไม้ อันดับที่ 3 การปลูกพืชผักสวนครัวคราวนี้ ให้มุ่งเน้นในการต่อยอดให้เป็นอาชีพได้ ตอบรับกับอาคารที่เรา กำลังจะทำพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคล คืออาคารศูนย์การเรียนรู้ พัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน ในพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพราะฉะนั้นในเฟสที่ 2 นี้ กรมการพัฒนาชุมชนขอร้องให้ผู้นำทั้งหลาย ช่วยกันชวนชาวบ้าน ปลูกพืชผักสวนครัวอย่างน้อย 2 ประเภท คือ 1. พืชผักสวนครัวที่เราใช้กินในชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยลดรายจ่ายในครอบครัวได้ 2. คือพืชผักสวนครัวคู่ชีวิตหรือคู่บ้าน ความหมายคือ ปลูกทีเดียวจะอยู่กับเราตลอดชีวิต ประกอบไปด้วย กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหอม มะกรูด มะนาว หัวข่า ตะไคร้ อยากให้ปลูกกันทุกบ้าน ปลูกครั้งเดียวลูกหลานมีกินมีใช้ และสามารถนำมาแปรรูปได้ 

นอกจากนี้ เฟส 2 ขอเชิญชวนให้ทุกคนน้อมนำโครงการพระราชดำริฯ เรื่องการตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช เพื่อจ่ายให้สำหรับคนที่ไม่มี และปรับปรุงข้อมูลผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ ให้มีภาษาอังกฤษด้วย เพื่อเผยแพร่สู่สากล สิ่งต่างๆที่เราเรียนรู้มาจากโครงการพระราชดำริที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานไว้นั้น ถ้าทำอย่างนี้ชีวิตของเรามีความยั่งยืนแน่นอน และสามารถรวมกันเป็นกลุ่มก้อน อาทิ กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ซึ่งเสมือไม้ไผ่หลายกิ่งมารวมกันทำให้หักไม่ได้ เพราะฉะนั้นชาวพระยาบันลือจะช่วยเป็นแหล่งอาหารของประเทศเราได้  

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนตำบลพระยาบันลือจะได้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าจากอาคารศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเสริมสร้าง พัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมการมีอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในตำบลพระยาบันลือ นำไปสู่การสร้างประโยชน์การพัฒนาประเทศชาติต่อไป” นายสุทธิพงษ์กล่าว

ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลพระยาบันลือได้ขอรับงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเพื่อก่อสร้างอาคารศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ขนาดความกว้าง 45 เมตร ยาว 55 เมตร งบประมาณ 31,500,000 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ลุ้นผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา

14 มิ.ย.- ประชาชน 2 ประเทศลุ้นผลการประชุม JBC ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว นายเปง สุเพีย ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานว่าก่อนการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ขณะนี้เป็นการประชุมกลุ่มเล็ก ผ่านไปกว่า 2 ชม. ยังไม่ออกมา ประชาชนสองประเทศลุ้นผลการประชุม ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว .-สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]

“ทวีวัฒน์” เจ้าของเงิน 12 ล้าน ลาออกจากกรรมการไต่สวนฯ ป.ป.ช.แล้ว

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – ป.ป.ช. แจง “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ลาออกจากกรรมการไต่สวนฯ ของ ป.ป.ช. แล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 68 วันนี้ (14 มิ.ย.) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว แสดงตนเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ที่ถูกทิ้งที่คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี เป็นอนุกรรมการชุดต่างๆ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 3 คณะนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ขอชี้แจงว่า นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ได้ทำหนังสือขอลาออกจากการเป็นกรรมการไต่สวน ในคณะกรรมการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช.ทุกคณะแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สำนักงาน […]