12 บริษัทไทย ขึ้นชั้น Gold Class ผู้นำด้านความยั่งยืน มากที่สุดของโลก

กรุงเทพฯ 1 มี.ค. – ตลท. เผย 12 บริษัทไทยติดอันดับความยั่งยืนใน The Sustainability Yearbook 2023 ในระดับ Gold Class จากการประกาศผลของ S&P Global มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก สะท้อนการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน
 
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนธุรกิจให้บูรณาการแนวทางความยั่งยืนในการดำเนินงาน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจและประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนไทยเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยจำนวนมากอยู่ในดัชนีความยั่งยืนระดับสากลทั้ง MSCI, FTSE และ S&P Global อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกภาคส่วน “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone”
 
“ล่าสุด การประกาศ The Sustainability Yearbook 2023 โดย S&P Global บริษัทไทยได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class จำนวน 12 บริษัทได้แก่ AWC, BJC, BTS, HMPRO, PTTGC, SCC, SCGP, TOP, TRUEE, TU, VGI และ ThaiBev ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก สะท้อนถึงความโดดเด่นของธุรกิจไทยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันจากทั่วโลก ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอชื่นชมความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนไทย ทั้งนี้ S&P Global เป็นผู้จัดทำดัชนีที่ผู้ลงทุนทั่วโลกใช้ในการวิเคราะห์และพิจารณาตัดสินใจลงทุน การได้รับจัดอันดับจะสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทำให้บริษัทอยู่ในสายตาของผู้ลงทุนทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมี 5 บริษัทจดทะเบียนไทยที่เป็น Industry Mover คือมีพัฒนาการโดดเด่น มีคะแนนการประเมินความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งได้แก่ AWC, CRC, SCGP, VGI และ WHA ด้วย” นายภากรกล่าว
 
ทั้งนี้ S&P Global ได้ประเมินความยั่งยืนบริษัททั่วโลก 7,822 บริษัท โดยมี 710 บริษัทที่ได้รับการประกาศใน The Sustainability Yearbook 2023 ในจำนวนนี้เป็นบริษัทไทย 37 บริษัทซึ่งมากเป็นอันดับ 5 ของโลก การประกาศยังแบ่งการจัดอันดับเป็น 4 ระดับ ได้แก่ Gold, Silver, Bronze และ Member โดยระดับ Gold Class มีบริษัทไทย 12 บริษัท ลำดับที่สองคือสหรัฐอเมริกา 11 บริษัท ลำดับสามคือไต้หวันและอิตาลี 7 บริษัท
 
ในปีนี้ S&P Global ได้เพิ่มเกณฑ์การคัดกรองด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้นสอดคล้องกับแนวทางการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ โดยจะไม่ประกาศรายชื่อบริษัทในอุตสาหกรรมยาสูบ (Tobacco) และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงที่มาจากถ่านหิน (Coal & Consumable Fuel) ใน The Sustainability Yearbook 2023 ทั้งนี้ รายชื่อบริษัทดังกล่าวจะถูกนำไปคัดเลือกเพื่อเข้าสู่ดัชนีด้านความยั่งยืนต่างๆ ของ S&P Global ทั้ง Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) และ S&P ESG Index Family ต่อไป.-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร