ผ่ายุทธศาสตร์ความร่วมมือทางธุรกิจของ DMTเพื่อความยั่งยืน

กรุงเทพฯ 13 ก.พ.-บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เดินหน้านโยบายขยายธุรกิจด้วยกลยุทธ์หลักแสวงหาโอกาสและความร่วมมือทางธุรกิจ  พร้อมร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมต่างๆรองรับการขยายตัวของชุมชนเมืองโดยรอบทางยกระดับฯ เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน 


ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  สำหรับแผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของบริษัทฯ ในปี 2566 นี้ บริษัทฯ ได้ตั้งคณะทำงานทั้งหมดเพื่อคลอบคลุม  7 ยุทธศาสตร์ ได้แก่  คณะทำงานSafer Road Traffic Management  คณะทำงาน Inclusive Growth คณะทำงาน Other Non-Toll Road Business คณะทำงาน ESG คณะทำงาน HPO Resilience Management และ คณะทำงาน DMT Excellence Recognition  เพื่อขับเคลื่อนทางธุรกิจ  โดยมีผู้บริหารของบริษัทฯ เป็นผู้ขับเคลื่อน และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจเพื่อให้องค์กรเติบโต ตัวอย่างเช่น ยุทธศาสตร์ Other Non-Toll Road Business ที่มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจด้านอื่นๆการร่วมมือกับทางด่วนญี่ปุ่นในการศึกษาลงทุนทำธุรกิจด้าน Inspection/Maintenance และยุทธศาสตร์ Inclusive Growth ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่จะพัฒนาจุดเชื่อมต่อกับโครงการต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ระยะที่ 3 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อเดิม) และรวมถึงการรองรับการขยายตัวของชุมชนโดยรอบทางรถไฟฟ้าสายสีแดง  การขยายตัวของเมืองรังสิต ปทุมธานี ที่กำลังมีหมู่บ้านและชุมชนเกิดขึ้นมากมาย ไม่เพียงแต่การดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอีกด้วย

ดร.ศักดิ์ดาฯ กล่าวเสริมว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ระยะที่ 3 ที่ทอท. อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียด  DMT ได้เข้าร่วมให้ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ประกอบการศึกษาโครงการ ตั้งแต่การศึกษาการจัดทำแผนแม่บทโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 3 โดยเมื่อปี 2559 ได้ส่งข้อมูลปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมือง และข้อมูลปริมาณจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต ทางเข้า-ออก สนามบิน ที่บริษัทฯ เก็บข้อมูลเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ ทอท. ใช้ในการศึกษาออกแบบโครงการในภาพรวม 


“เรายินดีที่จะสนับสนุนโครงการต่อไปในขั้นตอนปัจจุบันที่จะมีการการออกแบบรายละเอียด (Detail Design) โดยในอดีต DMT ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ข้อคิดเห็นในการศึกษาด้านวิศวกรรมโยธาในการสร้างทางเชื่อม และ ด้านวิศวกรมจราจร ในการวิเคราะห์รูปแบบออกแบบตำแหน่งทางเชื่อมสนามบินดอนเมืองเพื่อไม่ให้มีผลกระทบด้านการจราจร  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา DMT รับทราบแนวทางการออกแบบของ ทอท. ที่มีการปรับปรุงแก้ไขหลายรูปแบบ และบริษัทฯ ยืนยันว่ายินดีสนับสนุน เพราะเห็นว่าการพัฒนาโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และการพัฒนาประเทศในภาพรวมเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มีท่องเที่ยวที่ใช้บริการสนามบินดอนเมืองมากยิ่งขึ้น ในส่วนการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบนถนนวิภาวดีนั้น DMT ได้พิจารณาศึกษาโครงการทางเชื่อมยกระดับอุตราภิมุขในบริเวณต่างๆ ที่มีความเหมาะสม ทั้งด้านวิศวกรรมโครงสร้าง  ด้านวิศวกรรมจราจร  ด้านความเหมาะสมด้านการเงิน  และข้อสัญญาสัมปทาน” ดร.ศักดิ์ดาเผย

ดร.ศักดิ์ดาให้ข้อมูลต่อว่า ช่วงที่ผ่านมา DMT ได้หารือ ด้านโครงสร้างและด้านวิศวกรรมจรารจร ร่วมกับ ทอท. ก็พบว่า ทางเชื่อมระหว่างท่าอากาศยานดอนเมืองเชื่อมกับทางยกระดับอุตราภิมุขโดยตรงที่ ทอท. ออกแบบนั้นมีความเหมาะสม เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสารสนามบิน (จากในปัจจุบันที่จะต้องออกประตู 8) ก็สามารถใช้ทางยกระดับดอนเมืองได้โดยตรงช่วยลดความแออัดบนถนนวิภาวดีรังสิต ได้อย่างมาก  และทางเชื่อมดังกล่าวนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของ บริษัทฯ เนื่องจากได้พัฒนาระบบ M-pass / Easy Pass  ไว้เพิ่มขีดความสามารถการให้บริการที่เพิ่มขึ้นในอนาคตสำหรับทางขึ้นลงบริเวณอื่นๆ

“บริษัทฯ อยู่ระหว่างทำการศึกษาการลงทุนก่อสร้างทางเชื่อม ทางขึ้น-ลง อื่นๆ บนโครงข่ายถนนวิภาวดีรังสิต ที่นอกจากทางเชื่อมออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองนี้ โดยยินดีจะหารือกับกรมทางหลวง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด บนถนนวิภาวดีรังสิตเพื่อให้ผู้ใช้ทางได้ประทับใจในการให้บริการของบริษัทฯ ยิ่งขึ้นไป” ดร.ศักดิ์ดา กล่าวทิ้งท้าย


ทั้งนี้ DMT เป็นผู้รับสัมปทานโครงการสัมปทานทางยกระดับช่วงดินแดงถึงอนุสรณ์สถาน หรือทางยกระดับดอนเมืองระยะทาง 21 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ทางหลวงสัมปทานเดิม ช่วงดินแดง-ดอนเมือง และส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ ช่วงดอนเมืองอนุสรณ์สถานฯ โดย DMT ดำเนินการบริหารทั้งการจัดเก็บค่าผ่านทาง, การอำนวยความสะดวกในการจราจร การกู้ภัยและการซ่อมบำรุงรักษาทางยกระดับ ประกอบด้วยด่านเก็บค่าผ่านทาง 11 ด่าน, มีทางขึ้น 15 แห่ง และทางลง16 แห่ง มีอายุสัมปทานถึงวันที่ 11 กันยายน 2577.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย